เมื่อเวลาประมาณ 21.20 น. ของวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ตามเวลาปักกิ่ง องค์การอนามัยโลกประกาศยกเลิก COVID-19 เป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ประชาคมโลกให้ความสนใจ" 

การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร มีความหมายต่อประเทศจีนอย่างไร และในอนาคตจีนจะรับมือกับการระบาดของโควิด-19 อย่างไร ผู้สื่อข่าวของไชน่ามีเดีย กรุ๊ปได้สัมภาษณ์นายเหลียง ว่านเหนียน หัวหน้ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการรับมือและจัดการกับการระบาดของคณะกรรมการสุขภาพและอนามัยแห่งชาติจีน

นายเหลียง ว่านเหนียน กล่าวว่าตามข้อกําหนดของกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ถือเป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ประชาคมโลกให้ความสนใจ" มีสามมาตรฐานหลัก ๆ 

ประการแรก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและผิดปกติ สองคือโรคนี้สามารถแพร่กระจายข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็ว และสามคือเหตุการณ์นี้ต้องการความพยายามและความร่วมมือของทุกประเทศทั่วโลกเพื่อป้องกันความอันตรายของไวรัสนี้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน จํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รายงานทั้งหมดและจํานวนผู้ป่วยในโรงพยาบาล จํานวนผู้ป่วยหนักในห้องไอซียูและจํานวนผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แม้ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโควิด-19 แม้ว่าบางครั้งไวรัสโควิด-19 จะแพร่กระจายได้เร็วขึ้นและมีความสามารถในการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์โดยรวมไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก  

ประเด็นที่สาม การติดเชื้อในประชากร จีนเรียกว่าการติดเชื้อตามธรรมชาติควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนเชิงรุก ในระดับโลกได้สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ค่อนข้างดี จีนเรียกว่าเกราะป้องกันภูมิคุ้มกัน และประเด็นที่สี่ในช่วง3 ปีที่มีการต่อสู้กับโรคระบาด ประเทศต่างๆ ได้เสริมสร้างขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขเมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว ภูมิคุ้มกันของมนุษย์และไวรัสโควิด-19 จีนได้บรรลุสถานะที่สมดุลแล้วหรืออาจกล่าวได้ว่าจีนได้บรรลุผลลัพธ์แบบขั้นตอน

นายเหลียง ว่านเหนียน อธิบายเพิ่มเติมว่า การประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินโควิด-19 ไม่ได้หมายความว่า  การระบาดของโควิด-19 จะหายไป และอันตรายของโรคจะหายไป แต่แสดงให้เห็นว่าความสามารถของจีนในปัจจุบันสามารถควบคุมอันตรายที่เกิดจากการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมถึงประเทศต่างๆ ไม่จําเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขทางสังคมและมาตรการป้องกันและควบคุมเหมือนเมื่อก่อน อีกต่อไป และจะนํามาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในด้านการขนส่ง การค้า การท่องเที่ยวและสาขาอื่น ๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศจีน

ประเทศต่างๆ สามารถใช้มาตรการบางอย่างที่ตรงเป้าหมายและไม่บังคับตามสถานการณ์ของตนเอง นายเหลียง ว่านเหนียนคิดว่าปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดคือการลดหรือแม้กระทั่งการกําจัดการควบคุมและข้อจํากัดบางอย่างเกี่ยวกับการขนส่งการค้าและการท่องเที่ยว รวมถึงการชุมนุมของประชาชน เขายังคิดว่าทั้งหมดจะมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์

นายเหลียง ว่านเหนียนกล่าวว่า การยกเลิกภาวะฉุกเฉินของโควิด-19 จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ และลดความไม่สะดวกบางประการที่เกิดจากการป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19 การติดต่อระหว่างประเทศจะสะดวกขึ้น นอกจากนี้จีนจะมีพลังงานและเวลามากขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แต่ไม่ได้หมายความว่าการป้องกันและควบคุมโรคระบาดของประเทศจะปล่อยปะละเลย จีนยังคงต้องทํางานป้องกันและควบคุมการระบาดที่เกี่ยวข้องต่อไป ต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่อไป ร่วมกันควบคุมการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงเป้าหมายมากขึ้น และคุ้มค่ามากขึ้นและปกป้องสุขภาพของประชาชน

Bo/kt/cui