ล.สวัสดีค่ะท่านผู้ฟังที่รัก ดิฉัน หลิว หรง และคุณ พัลลภ สามสี มาพบกับท่านผู้ฟังในรายการ คุยกันวันละประเด็น ทุกวันอังคารค่ะ
พ. สวัสดีครับ คุณหลิว หรง สวัสดีครับท่านผู้ฟัง วันนี้เราจะพาท่านผู้ฟังไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงดังที่สุดของกรุงปักกิ่ง
ล. ใช่ค่ะ นั่นก็คือ จัตุรัสเทียนอันเหมินค่ะ คิดว่าคุณ พัลลภเคยได้ไปเที่ยวมาแล้วแน่นอน ไม่ทราบว่าประทับใจอะไรบ้าง
พ. ผมเคยไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
ล. ไม่ว่าใคร ถ้ามากรุงปักกิ่งเป็นครั้งแรก สถานที่แห่งแรกที่ต้องไปก็คือจัตุรัสเทียนอันเหมินนั่นเอง เพราะว่ากรุงปักกิ่งถือว่าเป็นหัวใจของประเทศจีน ส่วนหัวใจของกรุงปักกิ่งคือจัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งป็นจัตุรัสในใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจากใต้สุดถึงเหนือสุดยาว 880 เมตร และกว้าง 500 เมตร มีพื้นที่ 440,000 ตารางเมตร จุคนได้เป็นล้าน
พ. ทุกวัน นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมจัตุรัสเทียนอันเหมินนับเป็นหมื่นเป็นแสน นอกจากมีพื้นที่กว้างใหญ่แล้ว บริเวณจัตุรัสมีสิ่งก่อสร้างสำคัญๆ หลายแห่ง โดยในใจกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์วีรชนจีนและหอรำลึกประธานเหมา ด้านตะวันตกเป็นมหาศาลาประชาชนจีน ด้านทิศตะวันออกเป็นพิพิธภัณฑ์ปฏิวัติแห่งชาติจีนและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีน ส่วนทางตอนใต้เป็นหอประตูเมืองโบราณ 2 หลังจากสมัยศตวรรษที่ 14 คือประตูเจิ้งหยาง และหอธนูเฉียนเหมิน
ล. พื้นของจัตุรัสเทียนอันเหมินปูด้วยหินแกรนิต(Granite Gear)สีเทา เมื่อปี 1986 จัตุรัสเทียนอันเหมินถูกจัดเข้าสู่รายชื่อ "สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง 16 แห่ง ของกรุงปักกิ่ง" โดยมีชื่อเรียกว่า"เทียน อัน ลี่ รื่อ" นักท่องเที่ยวมักชอบเข้าจัตุรัสจากด้านใต้ที่มีหอประตู 2 หลัง ทะลุผ่านจัตุรัส เข้าพลับพลาเทียนอันเหมิน แล้วเข้าสู่บริเวณพระราชวังโบราณ ซึ่งภาษาจีนเรียกว่า กู้กง แปลว่าวังต้องห้าม ต้องเดินทางเป็นเวลานาน และเมื่อถึงช่วงวันเทศกาลหรือช่วงการท่องเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างประเทศมากมาย คนหนาแน่นมาก หลงทางง่าย เช่นช่วงสงกรานต์ ก็มีทัวร์ไทยนับไม่ถ้วน บางคนเดินตามไกด์เรื่อยๆ ไป จนถึงขึ้นรถพบว่า ตามทัวร์ผิด เพราะเป็นคนไทยทั้งนั้นเลย และในช่วงวันชาติจีน ซึ่งเป็นวันที่ 1 ตุลาคม ประเทศจีนจะให้หยุดราชการตั้ง 7 วัน ชาวจีนทั่วประเทศมักชอบออกไปท่องเที่ยว สำหรับคนที่ไม่เคยมากรุงปักกิ่ง จะต้องจัดเวลามาเที่ยวกรุงปักกิ่ง มาถ่ายรูปที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งในช่วงนั้น ในจัตุรัสแม้จะไม่มีล้านคน แต่มีหลายแสนคนแน่นอน
พ.ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทิร์มหน้าร้อน นักเรียนนักศึกษาจากต่างถิ่นต่างมณฑลจำนวนมากพากันมาเที่ยวกรุงปักกิ่ง ในจัตุรัสเทียนอันเหมิน เราสามารถได้ยินสำเนียงท้องถิ่นของภาษาจีนเกือบทั้งหมดเลย จัตุรัสเทียนอันเหมินไม่เพียงแต่เป็นพยานการสู้รบเพื่อต่อต้านการรุกรานจากต่างประเทศหลายครั้งของประชาชนจีนเท่านั้น หากยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนสำหรับการจัดงานเฉลิมฉลองสำคัญ งานชุมนุมขนาดใหญ่ และการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติระดับสูงจากต่างประเทศ ที่นี่เป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองและประวัติศาสตร์สำคัญๆ ของจีน เป็นพยานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคเสื่อมโทรมจนถึงความเจริญรุดหน้าของประเทศจีนในปัจจุบัน
ล.จัตุรัสเทียนอันเหมินตั้งชื่อจากพลับพลาเทียนอันเหมินที่อยู่ทางเหนือสุดของจัตุรัส พลับพลาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1417 ในสมัยจักรพรรดิหย่ง เล่อ แห่งราชวงศ์หมิง สูง 33.7 เมตร บนฐานหินอ่อนที่แกะสลักอย่างประณีตกว่า 2,000 ตารางเมตร เป็นแท่นสีแดงและขาวที่สูงกว่า 10 เมตร และพลับพลาเทียนอันเหมินก็สร้างอยู่บนแท่นนี้ ใต้ประตูพลับพลาเป็นคลองจินส่วย หรือแปลว่า คลองสุพรรณนที เหนือคลองมีสะพานจินส่วยที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว 5 แห่ง มีสิงโตหินที่สง่าผ่าเผย 2 คู่ยืนประกบอยู่ด้านหน้าหอประตู พร้อมด้วยเสาฮว๋าเปี่ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งจักรพรรดิตั้งโดดเด่นประดับอยู่หน้าพระราชวัง ทำให้พลับพลาเทียนอันเหมินเป็นสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงามยิ่ง
พ.วันที่ 1 ตุลาคมปี 1949 ประธานเหมาเจ๋อตงประกาศ สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนบนพลับพลาแห่งนี้ และเชิญธงชาติจีนผืนแรกขึ้นสู่ยอดเสาด้วยตนเอง ตั้งแต่นั้นมา พลับพลาเทียนอันเหมินก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนใหม่ และเป็นส่วนประกอบสำคัญของตราประจำชาติจีน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1987 พลับพลาเทียนอันเหมินเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชม ก่อนนั้น สามาณชนแทบไม่มีโอกาสขึ้นพลับพลาเลย ตอนนี้ ไม่ว่าใคร ก็สามารถขึ้นไปชมทั้งจัตุรัสและเมืองปักกิ่ง เหมือนผู้นำจีนในอดีต