ผู้สื่อข่าว สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่วงคุยกันวันละประเด็น รายการของเราวันนี้ได้รับเกียรติจากดร.ละเอียด ศิลาน้อย ที่ปรึกษา (ระดับ 9) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกครั้ง ที่กรุณาแวะมาพูดคุยเรื่องการท่องเที่ยวจีน-ไทย
ดร.ละเอียด ศิลาน้อยอดีตนายทะเบียนธุรกิจนําเที่ยวและมัคคุเทศก์กรุงเทพมหานคร โดยมีผลงานมากมายหลากหลาย เช่น เป็นวิทยากรฝึกอบรมและบรรยายความรู้ เรื่อง"อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและนโยบายของรัฐ" "กฎหมายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว" "จิตวิทยาการบริการ" "เทคนิคการนำเที่ยวสำหรับมัคคุเทศก์" "วัดในกรุงเทพมหานครและพระบรมมหาราชวัง" "ปฐมนิเทศและปัจฉิมนิเทศผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผู้ผ่านการฝึกอบรมมัคคุเทศก์" ในโครงการฝึกอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์อาชีพที่สถาบันอุดมศึกษาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดขึ้น ณ สถาบันอุดมศึกษา 40 แห่ง ทั่วประเทศ
- ดร.ละเอียด ศิลาน้อย ยังเป็นวิทยากรฝึกอบรมโครงการพัฒนาผู้นำโครงการพัฒนาบุคลิกภาพ การขจัดข้อขัดแย้งในองค์กร การสร้างจิตสำนึกและสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ การจัดเก็บเอกสารในสำนักงาน ฯลฯ ในหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง
ผู้สื่อข่าว- สวัสดีค่ะ ท่านที่ปรึกษา
ดร.ละเอียด- สวัสดีครับคุณจันทร์ฉาย สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ
ผู้สื่อข่าว- แต่ไหนแต่ไร จีนไทยมีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องมาโดยตลอด ดังนั้น ในเรื่องของการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ควรทำอย่างไรบ้าง
ดร.ละเอียด- เรื่องเชื่อมความสัมพันธ์การท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศเรารู้ว่า เส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมกันได้ เพราะมาไทยแล้วเลยไปจีนได้ มาจีนแล้วเลยไปไทยได้ แหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งมีความพิเศษและโดดเด่นของตนเอง มาเที่ยววังหลวงของไทยแล้ว ไปเที่ยววังโบราณของจีนได้ แต่ว่าเรื่องการตลาดร่วมกันเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องการพัฒนาร่วมกันน่าสนใจ การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ต่อกัน อย่างของไทยพัฒนาการท่องเที่ยวนานแล้ว การพัฒนาบุคลากรก็นาน เรามีประสบการณ์เรื่องนี้มาก
การพัฒนาสิ่งก่อสร้าง จีนได้พัฒนาอยู่แล้ว และจะพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง วิถีชีวิตผู้คนด้วย การพัฒนาการท่องเที่ยวข้ามเรื่องคนไม่ได้ และต้องให้คนพื้นที่ด้วย ถ้าคนพื้นที่ยังใช้วิถีชีวิตล้าหลังอยู่ อย่างห้องน้ำ คนพื้นที่ยังใช้ห้องน้ำแบบนั่งยองๆ กับห้องน้ำแบบชักโครกคนละแบบ คนที่ใช้ห้องน้ำแบบชักโครกแล้ว ยอมรับแบบนั่งยองๆ ไม่ได้ เมืองไทยผ่านมาแล้ว แหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติไปเปลี่ยนเป็นชักโครกหมด เป็นการยกระดับแหล่งท่องเที่ยว ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านธรรมดาให้สูงขึ้นไปด้วย จีนก็ต้องทำ ประเทศที่กำลังพัฒนาการท่องเที่ยว คนพื้นเมืองจะได้อาศัยการพัฒนาการท่องเที่ยวบริโภคสิ่งที่ดีขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวต้องบริโภคสิ่งที่ดีๆ ไม่ยอมบริโภคสิ่งที่ธรรมดา ห้องน้ำแบบนั่งยองๆ เขาไม่เอา เขาต้องการห้องน้ำแบบชักโครก และชาวบ้านในพื้นที่ก็ต้องการชักโครกเหมือนเขา แต่ถ้าไปแหล่งท่องเที่ยวในประเทศที่เจริญแล้ว อย่างสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ประเทศเหล่านี้พัฒนาจนเจริญมาแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีมีมาก่อน สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทย และจีน ชาวบ้านต้องอาศัยการพัฒนาการท่องเที่ยวบริโภคสิ่งที่บริการนักท่องเที่ยว คือ เราใช้การท่องเที่ยวนำการพัฒนา ทำให้ได้เรียนรู้มากขึ้น ตื่นตัวมากขึ้น เข้าใจมากขึ้น ซึ่งก็ต้องพัฒนาทีละขั้นๆ
ผู้สื่อข่าว– จีนกำลังพัฒนาตามรอยอย่างนี้เช่นกัน แต่ต้องใช้เวลาอีกนาน
ดร.ละเอียด- ต้องใช้เวลา แต่ว่าไม่นานหรอก เวลาจะเร็วเมื่อมีนักท่องเที่ยวมามาก วิถีชีวิตของชาวบ้านระดับพื้นฐานก็จะได้รับการปรับปรุง และทำให้ชาวบ้านต้องรักษาขนบธรรมเนียมและประเพณีวัฒนธรรมพื้นเมืองที่เป็นสิ่งดีๆไว้ ทั้งอาหาร การแต่งกาย การบริการต้อนรับ และของที่ระลึกพื้นเมืองในแหล่งท่องเที่ยว แม้ว่า ปักกิ่งก็มีขายเหมือนกัน แต่ซื้อแล้วไม่ได้บรรยากาศ ต้องมาซื้อที่นี่ สินค้าการท่องเที่ยวเป็นแบบนี้ ดังนั้น ทุกแห่งเติบโตด้วยการท่องเที่ยว ไม่ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ และไม่ว่าแบบไหน ล้วนสามารถพัฒนาการท่องเที่ยวได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่คน อยู่ที่ชุมชน เช่น มียอดเขาเล็กๆ ไม่มีอะไรขึ้นไปดูแล้วก็ลงเลย แต่ว่าคนพื้นที่ต้อนรับดี ด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสก็เที่ยวได้ และก็อยากกลับมาเที่ยวอีก และคนขายของก็อย่าดูถูกข่มขู่ลูกค้าขายได้ไม่ได้ไม่เป็นไร ให้ลูกค้ามีความสนุกสนานกับการต่อราคา ชาวต่างชาติไม่ค่อยต่อราคา แต่เมื่อบอกว่า ต่อได้ เขาจะสนุกกับการต่อราคา ต่อได้มากน้อยไม่เป็นไร ก็กลายเป็นเกมที่สนุกอวดกัน ฉันซื้อถูกกว่าแพงกว่าเฮฮากันในหมู่นักท่องเที่ยว และหายเหนื่อยด้วย
ถ้ามองในด้านการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยว เรื่องการตลาดจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องการพัฒนาบุคลากร ไทยได้ประสบการณ์มาก สามารถถ่ายทอดกับจีนได้
ผมเคยรู้จักเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวชั้นสูงของจีนที่ชื่อ อู๊ โป ขณะไปประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น ขากลับเขามาแวะกรุงเทพฯ ผมพาไปร้านอาหารข้างๆ สนามมวยราชดำเนิน มีพนักงานมาบริการรับสั่งอาหาร เสร็จแล้วผมถามพนักงานว่า แหวนทองคำนี้ แฟนให้หรือ พนักงานก็พลิกแหวนให้ดู และบอกว่า แหวนทองธรรมดาแฟนหนูให้ค่ะ พูดเสร็จก็ไปแล้ว ผมบอกกับอู๊ โปว่า เห็นไหม อู๊ โปก็บอกว่า เข้าใจแล้ว พนักงานเสริฟอาหารรู้จักพูดล้อพูดเล่นกับลูกค้า ไม่ใช่หน้าตาบึ้ง เหมือนมาต้อนรับแขกที่เป็นเพื่อน เป็นมิตร พูดล้อเล่นกับลูกค้าได้นิดๆ หน่อยๆ แต่เขาก็ให้เกียรติ ไม่ล่วงเกิน ซึ่งในหลายพื้นที่ของจีนที่เราเคยไปแล้วยังไม่ได้ ส่วนใหญ่ทางภาคใต้จะค่อนข้างดี ไม่เคร่งเครียด แต่พฤติกรรมอย่างนี้ ควรให้มีความเข้าใจในแหล่งท่องเที่ยวอย่างทั่วไป ด้านนี้ สองประเทศสามารถมีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจถ่ายเทประสบการณ์ซึ่งกันและกันได้มากมาย เพราะว่า เรื่องเทคนิค การออกแบบสิ่งก่อสร้าง วิชาการไม่มีปัญหา เรียนรู้กันได้ แต่เรื่องการต้อนรับบริการ ต้องให้ความสนใจเรื่องการอบรมบุคลากร และเทคนิคต้อนรับให้บริการต้องให้ข้อแนะนำกัน
ของไทยได้เปรียบ เทคนิคการต้อนรับเราเก่ง เวลาทำงานหน้าท่องเที่ยว เราเน้นความสามารถ ประสบการณ์ ทัศนคติที่ดีต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวต้องมาก่อน ความรู้มาทีหลัง ความรู้สอนได้ ถ้ามีทัศนคคิที่ดีแล้ว ความรู้จะแสวงหาได้ไม่ยาก พยายามเรียนรู้ได้เอง ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาติไหน มาจากแห่งใด เป็นคนแปลกหน้าหรือสีผิวเดียวกัน เราต้อนรับอย่างดีหมดเลย คนไทยเก่งด้านนี้โดยธรรมชาติแต่ต้องเสริมเทคนิคบริการที่สมัยใหม่ๆ นี้เข้าไป ให้มีมาตรฐานสากลมากขึ้น ไทยจีนเราสามารถแลกเปลี่ยนกันได้มากมาย
ประสบการณ์การพัฒนาการท่องเที่ยวของจีนก็มีมากมาย จีนทำโครงการอะไรเอาจริงเอาจังมาก จริงๆ เราถือว่า จีนมีความสำคัญมาก ในการร่วมมือพัฒนาการตลาดการท่องเที่ยว เพราะว่า นักท่องเที่ยวจีนเป็นอันดับที่ 3 ของไทย มากที่สุดคือ มาเลเซีย อันดับ 2 คือ ญี่ปุ่น อันดับ 3 คือจีน จีนกับเกาหลีคู่คี่กันตลอด มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยมาก และก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยนิยมไปเที่ยว เพราะวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน มีเอกลักษณ์ที่คล้ายๆ กัน ทั้งๆที่มีความแตกต่างกันบ้าง แต่มองหน้ากัน สื่อสารกันเข้าใจง่าย และเป็นแหล่งที่คุ้นเคย อย่างกำแพงเมืองจีน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ต้องโฆษณา เราพร้อมใจเมื่อไรมีเวลาก็มาเที่ยวกันได้ และการเดินทางก็สะดวก โบราณสถานและวัฒนธรรมพื้นเมืองมีมากแล้ว และจีนสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจเรื่อยๆ กีฬาโอลิมปิก เอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ จีนได้เหรียญทองมากมาย สร้างชื่อเสียงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง การโฆษณาจีนในเมืองไทยไม่ต้องมาก แต่ว่า การมาให้มาอย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและปลอดภัยเรื่องนี้มีความสำคัญมาก
ผู้สื่อข่าว– ขอขอบคุณมากค่ะที่กรุณาพูดถึงประสบการณ์ในการอบรมบุคลากรการท่องเที่ยวและประเด็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวระหว่างจีนไทยค่ะ หวังว่า ท่านผู้ฟังคงจะได้รับทั้งสาระและความเพลิดเพลินไปกับดร.ละเอียด ศิลาน้อยนะคะ ขอบคุณทุกท่านค่ะ
ในฐานะเป็นผู้บริหารระดับสูงและนักวิชาการด้านการท่องเที่ยว ท่านมองการท่องเที่ยวจีนอย่างไร
ดร.ละเอียด
ไทยเป็นประเทศที่พัฒนาการท่องเที่ยวเนิ่นนาน เคยได้รางวัลระดับโลกหลายรางวัล และเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวของคนจีนจำนวนมาก ท่านมีข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวของจีนอย่างไร
ดร.ละเอียด
ขอให้ท่านแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 70 ปีสถานีวิทยุซีอาร์ไอ (China Radiu Internition) ในวันที่ 3 ธันวาคมศกนี้
ขอบพระคุณค่ะ