เมื่อกล่าวถึงเทศกาลตรุษจีน มีเรื่องหนึ่งที่ต้องคุยคือ "ชุนยุ่น"ซึ่งเป็นประเด็นที่สื่อมวลชนจีนกล่าวถึงมากที่สุดในช่วงก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน เพราะปีนี้การรถไฟจีนคาดการณ์ว่า ตลอดช่วงวันหยุดตรุษจีน จะขนส่งผู้โดยสารกว่า 3300 ล้านคน เท่ากับว่า ชาวจีนทุกๆ 4 คน ก็อยู่ในกองทัพ"ชุนยุ่น"เพราะตามประเพณี คืนก่อนวันตรุษจีน ลูกหลานต้องอยู่พร้อมหน้ากันที่บ้านพ่อแม่ เพื่อทานข้าวด้วยกัน ร่วมกันต้อนรับปีใหม่ ดังนั้น คนที่ทำงานในต่างมณฑลต้องซื้อตั๋วรถไฟหรือตั๋วเครื่องบินตั้งแต่เนิ่มๆ โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีแรกที่เริ่มใช้วิธีจองตั๋วรถไฟผ่านอินเตอร์เน็ต จึงเกิดสงครามแย่งตั๋วในอินเตอร์เน็ต สำหรับคนที่เชี่ยวชาญการซื้อของทางอินเตอร์เน็ต ย่อมมือไวกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ แต่สำหรับเกษตรกรหรือคนที่ไม่ค่อยใช้คอมพิวเตอร์ ก็จะเสียเปรียบ จนมีเกษตรกรที่ทำงานในเมืองปักกิ่งคนหนึ่งเขียนจดหมายประท้วงถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการรถไฟจีนว่า แต่ก่อนการซื้อตั๋วรถไฟเป็นการแข่งกำลังกาย เพราะไปเข้าคิวในคืนก่อนวันขายตั๋วก็น่าจะได้ แต่เดี๋ยวนี้ต่องเก่งเรื่องขึ้นอินเตอร์เน็ตจึงจะมีสิทธิ์เย่งตั๋ว ไม่ยุติธรรมเลย แต่อย่างไรก็ตาม การเปิดเว็บไซต์จองตั๋วรถไฟและกำหนดให้ใช้ชื่อจริง ถือเป็นการก้าวหน้าสำคัญในการปฏิรูประบบการจำหน่ายตั๋วรถไฟในช่วงเทศกาลตรุษจีน ภายในเวลาไม่กี่วันนับตั้งแต่เปิดเว็บไซต์จองตั๋วรถไฟเป็นต้นมา เว็บไซต์แห่งนี้ก็กลายเป็นเว็บไซต์ที่มีการคลิกเข้ามากที่สุดในโลก
และยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้หนุ่มสาวจีนรุ่นใหม่ที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ต้องปวดหัวหน่อย คือ คืน"เหนียนซันสือ"จะกลับบ้านพ่อแม่ของฝ่ายไหนดี เนื่องจากตามประเพณีดั้งเดิม คืนนั้นลูกสใภ้ต้องตามสามีกลับบ้านของคุณแม่ฝ่ายสามี แต่ก่อนชาวจีนมีลูกหลายคน มีทั้งลูกชายและลูกสาว หากลูกสาวไปบ้านฝ่ายสามี ก็ยังมีลูกชายอยู่ด้วย แต่ทุกวันนี้ ครอบครัวชาวจีนส่วนใหญ่มีลูกคนเดียว ผู้เป็นพ่อแม่ไม่ว่าจะมีลูกสาวหรือลูกชาย ล้วนอยากให้ลูกกลับมาฉลองตรุษจีนด้วยกัน ไม่งั้นคืนก่อนตรุษจีนบ้านจะเหงาแน่นอน สำหรับคู่สามีภรรยาที่บ้านพ่อแม่อยู่ในเมืองเดียวกัน ปัญหานี้แก่ไม่ยาก เพราะวิ่งสองบ้านได้ แต่สำหรับคนที่บ้านอยู่คนละเมืองคนละมณฑล ต้องตัดสินใจว่ากลับบ้านไหนดี บางคู่ใช้วิธีจับฉลาก บางคู่จัดคิวกัน ปีนี้บ้านฝ่ายชายปีหน้าบ้านฝ่ายหญิง บางคู่รับพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายมาอยู่บ้านตัวเอง บางคู่ก็ตัดสินใจไม่กลับบ้านพ่อแม่เลย และสามีภรรยที่ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ก็ไม่น้อยด้วย