ยังมีคนกลุ่มหนึ่งกลัวตรุษจีนเหมือนกัน โดยเฉพาะกลัวการพบปะสังสรรค์ของเพื่อนร่วมรุ่น การร่วมงานเลี้ยงแบบมื้อเที่ยงเสร็จต่อด้วยมื้อเย็น การคุยโอ้อวดบนโต๊ะอาหาร และการใช้จ่ายเกินตัว ทำให้การร่วมพบปะสังสรรค์กินข้าวด้วยกันระหว่างเพื่อนฝูงซึ่งแต่ก่อนเป็นเรื่องที่สนุกและผ่อนคลาย กลับกลายเป็นภาระในความรู้สึกของคนจำนวนไม่น้อย เงินที่ใช้จ่ายไปกับการซื้อของขวัญของฝาก ให้อั่งเปา และเลี้ยงอาหาร บางทีมากกว่าเงินอั่งเปาที่บริษัทแจกให้ก่อนตรุษจีนด้วยซ้ำ จนต้องรูดเครดิตการ์ดเกินวงเงิน และค่อยคืนหนี้ทีหลัง
แต่สำหรับบางคน ยังมีสิ่งที่น่ากลัวกว่าการใช้จ่ายเกินตัว นั่นก็คือ การคุยโอ้อวดบนโต๊ะอาหาร โดยเฉพาะงานเลี้ยงเพื่อนร่วมรุ่น ที่มักจะมีการเปรียบเทียบว่าในรอบปีที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง หาเงินมาได้เท่าไหร่ บางคนจะคุยว่าซื้อบ้านหลังใหม่ ซื้อรถคันใหม่ หรือไปเที่ยวต่างประเทศมาแล้วกี่ประเทศ ทำให้คนที่ทำงานมีเงินเดือนตายตัวหรือรายได้น้อย ไม่มีปัญญาซื้อบ้านซื้อรถรู้สึกอึดอัดและอับอาย จนบางคนเมื่อได้รับเชิญจากเพื่อนๆ ว่าจะนัดกินข้าวกัน ก็จะหาข้ออ้างปฏิเสธ
คนอีกกลุ่มหนึ่งที่กลัวเทศกาลตรุษจีนคือ หนุ่มสาวโสดที่กลับไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ในช่วงวันหยุดยาว สิ่งที่คนเหล่านี้กลัวและรำคาญที่สุดก็คือ ทุกครั้งที่พบพ่อแม่และญาติในตระกูล ก็จะถูกซักไซ้ไล่เลียงถามอยู่เรื่องเดียวคือ มีแฟนหรือยัง เมื่อไหร่จะแต่งงาน และจะถูกเร่งให้รีบๆ หาแฟนและแต่งงานเร็วๆ เพื่อไม่ให้พ่อแม่จุกจิกจู้จี้กับเรื่องนี้ตลอดช่วงวันหยุด หนุ่มสาวหัวใสบางคนจึงคิดใช้วิธีจ้างคนเป็นแฟนเมื้อกลับไปพบครอบครัว
บางคนไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า เป็นการหลอกลวงครอบครัว แต่หนุ่มสาวชาวเน็ตที่เลือกใช้วิธีนี้ ต่างระบุว่า มันเป็นเรื่องโกหกที่มีเจตนาดี และก็ไม่แน่ หากโชคดี เกิดถูกใจคนที่จ้างมา ก็อาจกลายเป็นคู่รักจริง ๆ ก็ได้... แหม ที่แท้ก็หวังผลระยะยาวนี่เอง
และยังมีคนจำนวนไม่น้อยแทนที่จะใช้เวลาวันหยุด 7 วันอยู่กับครอบครัว กลับชอบไปทำงานเหมือนปกติเสียมากกว่า เหตุผลคือ อยู่บ่านเหนื่อยกว่าทำงาน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีญาติอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันเป็นจำนวนมาก ช่วงตรุษจีนก็จะมีการนัดคิวเยี่ยมเยือนหรือเลี้ยงอาหารกันเกือบทุกวัน ไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างแท้จริง และอีกอย่าง ช่วงตรุษจีนตรงกับช่วงที่อากาศหนาวที่สุด นอกจากงานวัดที่จัดเหมือนกันทุกปีไม่ค่อยดึงดูดใจเท่าไหร่แต่ก็เนืองแน่นด้วยผู้คนที่เบียดเสียดกันทุกที่แล้ว เกือบไม่ค่อยมีกิจกรรมอย่างอื่นที่น่าสนใจมากสำหรับคนทั่วไป การอยู่บ้านเฉยๆหลายวันก็น่าเบื่อ เทียบดูแล้วไปออฟฟิสยังสบายกว่าและสนุกกว่า แถมการทำงานในช่วงวันหยุดจะได้ค่าจ้างมากกว่าวันธรรมดาถึง 3 เท่า