วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมาเป็นวันอนามัยโลก หัวข้อหลักของวันอนามัยโลกปีนี้คือ "ความเป็นสังคมผู้สูงอายุ และการรักษาสุขภาพของผู้สูงอายุ"
จีนเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีประชากรผู้สูงอายุมากกว่า 100 ล้านคน ปัจจุบัน ประชากรผู้สูงอายุของจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเป็นสังคมผู้สูงอายุได้กลายเป็นการท้าทายที่หนักหน่วงประการหนึ่งของจีน
สำหรับกระบวนการความเป็นสังคมผู้สูงอายุของจีน นางจางเหที่ยเหมย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแพทย์ศาสตร์เกี่ยวกับผู้สูงอายุของกรุงปักกิ่ง สังกัดกระทรวงสาธารณสุขจีนกล่าวว่า "ประชากรผู้สูงอายุในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีอัตราเติบโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของโลก จากข้อมูลการสำรวจสำมะโนครัวทั่วประเทศจีนครั้งที่ 6 จนถึงปลายปี 2010 จีนมีประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปกว่า 118 ล้านคน คิดเป็น 8.87% ของประชากรทั้งหมด และจีนเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีประชากรผู้สูงอายุมากกว่า 100 ล้านคน ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า จีนกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ "
จากข้อมูลสถิติของสหประชาชาติระบุ ภายในปี 2050 ผู้สูงอายุจีนที่มีอายุเกิน 80 ปีจะมีกว่า 100 ล้านคน นับเป็น 1 ใน 5 ของประชากรทั่วโลก
ปัจจุบัน ภัยคุกคามหลักต่อผู้สูงอายุคือ การเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน ภารกิจในการรับมือกับปัญหาโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากความเป็นสังคมผู้สูงอายุจึงกลายเป็นการท้าทายที่หนักหน่วงประการหนึ่งของจีน
รัฐบาลจีนกำลังพยายามสร้างระบบรักษาพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่มีประสิทธิภาพสูง ค่าใช้จ่ายประหยัด และครอบคลุมทั่วถึง ซึ่งระบบนี้ประกอบด้วยระบบป้องกันโรค ระบบรักษาพยาบาล และระบบดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรับมือกับการท้าทายจากความเป็นสังคมผู้สูงอายุ นายจาง เหที่ยเหมย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแพทย์ศาสตร์เกี่ยวกับผู้สูงอายุของกรุงปักกิ่ง สังกัดกระทรวงสาธารณสุขจีนกล่าวว่า ขณะนี้ การดูแลผู้ป่วยสูงอายุในระยะพักฟื้นยังมีปัญหาอีกมากที่ต้องได้รับการแก้ไข ด้วยเหตุนี้ จีนต้องเร่งแก้ไขปัญหาด้านนี้ เธอยังกล่าวว่า "ปัจจุบัน จีนต้องสร้างโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพิ่มจำนวนเตียงนอนในสถานดูแลผู้สูงอายุ และสร้างระบบดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่พักฟื้นในบ้านของตนด้วย นอกจากนี้ เนื่องจากผู้สูงอายุไม่สะดวกในการเดินทาง จึงต้องสร้างระบบให้บริการด้านการขนส่งสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ "
(YING/cai)