หลังจากจีนส่งยานอวกาศ "เสินโจว 9" พร้อมนักบินอวกาศทั้งชายและหญิงรวม 3 คนขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อวันที่ 16 และกลับมาด้วยผลสำเร็จอันเป็นที่น่าพอใจในวันที่ 29 มิถุนายนเป็นต้นมา ข่าวเกี่ยวกับนักบินอวกาศ 3 คนที่ไปปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ได้แก่ จิ๋ง ไห่เผิง หลิวว่าง และหลิวหยางเป็นข่าวที่ฮิตมาก โดยเฉพาะข่าวของหลิว หยาง นักบินอวกาศหญิงคนแรกของจีนได้รับความสนใจมากที่สุด
ตั้งแต่ได้ยินชื่อหลิวหยางและเห็นหน้าทางโทรทัศน์แล้ว ก็สนใจว่า เธอคนนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร แต่งงานหรือยัง มีลูกหรือยัง ทำไมถึงได้รับการคัดเลือกเป็นนักบินอวกาศหญิงคนแรกของจีน
สื่อต่างๆก็พยายามตอบสนองความต้องการของประชาชนและมีข่าวเกี่ยวกับครอบครัวของหลิวหยางเผยออกมาเรื่อย ซึ่งการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่า ประชาชนสนใจรายละเอียดในการส่งยานอวกาศ "เสินโจว 9" ครั้งนี้อย่างต่อเนื่องมีถึง 66.6% ในจำนวนนี้ อัตราสนใจหลิ่วหยาง นักบินหญิง สูงถึง 58.7%
จากข้อมูลที่ค้นมาพบว่า หลิวหยาง วัย 33 ปี เป็นคนเมืองเจิ้งโจวของมณฑลเหอหนัน และเป็นทหารอากาศ ยศพันตรี ด้วยประสบการณ์การขับเครื่องบินอย่างปลอดภัย 1,680 ชั่วโมง และจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นกระทันหันอย่างใจเย็นและเฉียบขาด โดยได้รับการคัดเลือกเป็นนักบินอวกาศหญิงหนึ่งในสองของจีนเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2010 หลังจากนั้น ได้เข้ารับการฝึกในโครงการนักบินอวกาศของจีนเป็นเวลากว่าสองปี
หลิวหยางเกิดในครอบครัวธรรมดา คุณพ่อคุณแม่ปลดเกษียณแล้วทั้งสองคน ก่อนเกษียณเป็นกรรมกรธรรมดาทั้งคู่ หลิวหยางเป็นลูกเพียงคนเดียวของครอบครัว แต่เธอไม่เหมือนคนรุ่นใหม่ปัจจุบันที่ชอบติดตามกระแสแฟชั่นอย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ยังคิดว่า หลิวหยางเป็นลูกนักบินหรือเปล่าได้เก่งถึงขนาดนี้ ข่าวว่า คุณพ่อของหลิวหยางมีนิสัยซื่อสัตย์ ใจกว้าง เข้ากับเพื่อนกับญาติได้หมดและขยันทำงานหลายสิบปี ตรงนี้ หลิวหยางเหมือนคุณพ่อ การเรียนหนังสือการทำงานจริงจังมาก ตั้งใจทำมีความอดทน และมุ่งมั่นตลอดเวลา
หลิวหยางเป็นเด็กดีมีความรับผิดชอบตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะคุณแม่สั่งสอนอย่างเข้มงวด หลิวหยางเคยบอกกับเพื่อนว่า หากคุณแม่บอกว่าไม่ได้ ไปขอ 3 วันก็ยังไม่ได้ หลิวหยางเกิดในเดือนตุลาคมของปีม้า คุณแม่พูดล้อเล่นว่า ลูกสาวเป็นม้าขี้เกียจ เพราะช่วงตุลาคม ต้นหญ้างอกงามดี ไม่ต้องลำบากก็มีอาหารอุดมสมบูรณ์
แม้ว่าหลิวหยางเป็นลูกเพียงคนเดียวของครอบครัว แต่พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูแบบเอาอกเอาใจมากเกินพอดี และหลิวหยางก็ไม่เหมือนเด็กหญิงคนอื่นๆที่ชอบแต่งตัวซึ่งเป็นเด็กที่เชื่อฟังเข้าใจพ่อแม่ รู้ว่าเศรษฐกิจทางบ้านไม่ค่อยดี จึงตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่อให้พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วง
ปีที่จบมัธยมปลาย ผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของหลิวหยางดีมากได้คะแนนกว่า 620 อยู่อันดับต้นๆของโรงเรียน ทุกคนต่างเชื่อว่าหลิวหยางสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีดั่งหวังได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่พอดีมีบริษัทการบินไปรับสมัครนักบินหญิงโดยมีรายได้เงินเดือนและสวัสดิการที่น่าสนใจแต่เงื่อนไขในการคัดเลือกทั้งผลการเรียนและด้านสุขภาพสูงมาก และบอกว่าหากได้รับการคัดเลือก ก็จะมีโอกาสไปเรียนที่มหาวิทยาลัยการบินอวกาศที่กรุงปักกิ่ง และไปอบรมที่ออสเตรเลีย
พ่อแม่หลิวหยางตัดสินใจไม่ถูก คุณแม่บอกว่า ลูกของกรรมกรธรรมดา ไม่มีความรู้พื้นฐานด้านการบินอวกาศสักนิด และไม่มีเบื้องหลังอะไร ไปเป็นนักบินจะดีหรือเปล่า มีอนาคตหรือไม่ ซึ่งครูประจำห้องมั่นใจว่า โอกาสเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยสำหรับหลิวหยางนั้นหาไม่ยาก แต่โอกาสเป็นนักบินหญิงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คำพูดของครู ทำให้พ่อแม่ตัดสินใจได้เลย
หลังจากผ่านการตรวจสอบทั้งสถานภาพครอบครัว สุขภาพและสอบสัมภาษณ์หลายรอบ หลิวหยางได้รับการคัดเลือกเป็นนักบินหญิงรุ่นที่ 7 ของจีน ซึ่งเป็นการหักเหชะตาชีวิตของหลิวหยาง