จาก "หมี่ข้ามสะพาน" ก๋วยเตี๋ยวน้ำชื่อดังของยูนนาน มาต่อที่รายการอาหารสิ้นคิดที่พิชิตหิวได้แซ่บแบบไม่ผิดหวังด้วย "ม๋าโผโต้วฟู 麻婆豆腐" หรือ "ผัดเผ็ดเต้าหู้หมูสับ"
ม๋าโผโต้วฟู เป็นอาหารชื่อดังของเมืองเฉิงตู ที่มีรสเผ็ด
นำตามสูตรนิยมของอาหารตำหรับเสฉวน
ม๋าโผโต้วฟู นอกจากส่วนประกอบหลัก คือ เต้าหู และเนื้อหมู(วัว)สับแล้ว ยังมีเครื่องปรุงอื่นๆ อาทิ ต้นหอม พริกไทย น้ำมันงา น้ำมันพริกแดง เป็นส่วนผสมเพิ่มรสให้กับเต้าหู้จานเด็ดนี้มีกลิ่นหอม รสเข้ม เผ็ด และนุ่มกลมกล่อมเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน
มีการเล่าขานถึงประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่าร้อยปีว่า ย้อนหลังไปในต้นรัชสมัยฮ่องเต้ถงจื้อ(ครองราชย์ ค.ศ.1862-1875) แห่งราชวงศ์ชิง ณ สะพานว่านฝูเฉียวชานเมืองทางเหนือ ที่บนฝั่งของสะพานไม้กว้างข้ามลำน้ำนี้เป็นแหล่งพลุกพล่านชุมนุมชน มีทั้งพ่อค้าเร่ คนงานรับจ้างแบกเกี้ยว ลากรถ รวมถึงเป็นที่ตั้งร้านรวงต่างๆ และหนึ่งในนั้นมีร้านอาหารเล็กๆ ร้านหนึ่ง เจ้าของร้านแซ่เฉิน ภรรยาแซ่หลิว ที่ผู้ใช้แรงงานนิยมนำเต้าหู้และเนื้อแวะเวียนมาไหว้วานเถ้าแก่เนี้ยปรุงอาหารให้ทานอยู่เสมอๆ นานวันเข้าก็เกิดทักษะฝีมือการผัดเต้าหู้จนเป็นสูตรเฉพาะตัวและเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว จนต่อมามีคนสังเกตุว่าบนใบหน้าของเถ้าแก่เนี้ยมีรอยกระ(ม๋า) จึงกลายเป็นชื่อเรียกผัดเต้าหู้สูตรเด็ดว่า "ม๋าโผโต้วฟู"
อีกหนึ่งจานเด็ดที่อิ่มท้องพร้อมอิ่มตา ด้วยสีสันอาหารที่ตัดกันอย่างสวยงาม
ระหว่างเต้าหู้ขาวกับน้ำตาลเข้มของเนื้อสับ
และสีแดงจัดของน้ำมันพริกที่ล้อมรอบกับสีเขียวสดของต้นหอมซอยที่โรยประดับหน้า
ส่วนอีกหนึ่งตำนานว่า ความเป็นมานั้นเริ่มต้นในรัชสมัยฮ่องเต้ถงจื้อ ที่สะพานว่านฝูเฉียวเช่นเดียวกัน แต่เถ้าแก่เนี้ยนั้นเดิมทีแซ่เฉิน และเปิดร้านทำเต้าหู้ขายเองเลย และเพราะเต้าหู้ที่ทำทั้งขาวและนุ่ม แถมผัดออกมาแล้วยังได้รสชาติดีเป็นพิเศษอีกด้วย ทำให้กิจการค้าเต้าหู้ของร้านเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก มากจนทำให้แม่ค้าร้านเต้าหู้ที่อยู่ตรงข้ามรู้สึกไม่พอใจและค่อยๆ สะสมกลายเป็นความริษยาเคืองแค้น
จนมาวันหนึ่งมีลูกค้าซื้อเนื้อวัวสับถือติดมือมาโลหนึ่ง พอนั่งลงเตรียมจะสั่งอาหารก็พลันเหลือบไปเห็นเถ้าแก่เนี้ยร้านตรงข้ามที่ทั้งขาวหมวยสวยและสาว ส่งสายตาเชื้อเชิญมาให้ก็รีบผุดลุกออกไปทันที สวนกับลูกค้าใหม่ที่เข้าร้านมาและเหลือบเห็นถุงเนื้อสับที่วางทิ้งไว้ จึงร้องตะโกนบอกเถ้าแก่เนี้ยขอเต้าหู้ผัดเนื้อให้สักจาน เถ้าแก่เนี้ยเดิมลังเลไม่กล้าใช้เนื้อถุงที่ถูกลืมทิ้งไว้ แต่ลูกค้าใหม่ก็เร่งเร้าไม่หยุดเลยตัดสินใจหยิบยืมใช้ก่อน คาดไม่ถึงว่าการผัดครั้งนี้จะหอมอร่อยเป็นที่ถูกใจลูกค้ายิ่ง และเอ่ยปากบอกต่อๆ กันไป จนมีคนมาสั่งรับประทานกันไม่ขาดปาก ทำให้กิจการยิ่งเจริญขึ้นไม่หยุด
เถ้าแก่เนี้ยร้านตรงข้ามก็ยิ่งตาร้อนเป็นไฟ และเที่ยวเอาเถ้าแก่เนี้ยเฉินไปพูดนินทาว่าร้ายต่างๆ นานาให้ลูกค้าฟังว่า เป็นยายอัปลักษณ์บ้าง ยายหน้าตกกระบ้าง เถ้าแก่เนี้ยเฉินได้ยินกลับไม่ใส่ใจ คิดแต่ว่าทำมาค้าขายตามทางของตนให้ดีที่สุดเป็นพอ จนภายหลังตัดสินใจนำมาเขียนขึ้นป้ายเป็นชื่อร้านให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย และก็กลายเป็นที่เรียกขานกันติดปากถึงความอร่อยของเต้าหู้ผัดเนื้อสับตำหรับเด็ด "ม๋าโผโต้วฟู" ที่เลื่องชื่อเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府
ลิงค์เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:จีนจานด่วน ดวลจานเด็ด "เมนูสิ้นคิด" (5)