สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อมวลชนต่างๆ ของฟิลิปปินส์ตีพิมพ์บทความเชิงสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกรณีเปลี่ยนชื่อ "ทะเลจีนใต้" โดยกล่าวว่า การกระทำของรัฐบาลฟิลิปินส์ดังกล่าวจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนที่ตึงเครียดอยู่แล้วในปัจจุบันทวีความรุนแรงขึ้นอีก และไม่เป็นผลดีต่อฟิลิปปินส์
หนังสือพิมพ์เดลีย์ ทรีบูนของฟิลิปปินส์ตีพิมพ์บทความระบุว่า การที่นายเบนิโญ อาคีโน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ลงนามในคำสั่งเปลี่ยนชื่อ "ทะเลจีนใต้"นั้นทำให้ข้อขัดแย้งระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนทวีความรุนแรง ดูเหมือนว่าผู้นำฟิลิปปินส์ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับจีนอย่างชัดเจน บทความระบุว่า ผู้นำฟิลิปปินส์อาจจะคิดว่ายุทธศาสตร์กลับสู่เอเชียของสหรัฐฯจะสามารถช่วยปกป้องฟิลิปปินส์ได้ และถ้าจีนใช้ปฏิบัติการณ์เต็มที่กับฟิลิปปินส์ก็น่าจะกังวลว่าอาจเกิดความเสี่ยงที่จะเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐฯหรือไม่ แต่จริงๆ แล้วสำหรับฟิลิปปินส์ นี่เป็นการติดสินใจไม่เป็นผลดีอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์จะโดดเดี่ยวมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้การสนับสนุนจากสหรัฐฯนี้ การกระทำของ ผู้นำฟิลิปปินส์จึงเป็นการใช้ปฏิบัติการณ์โดยลำพังฝ่ายเดียว ทำให้ฟิลิปปินส์แยกตัวออกมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นหนทางที่ทำให้ฟิลิปปินส์ห่างเหินจากประเทศในภูมิภาคนี้และพึ่งพากับแต่เพียงสหรัฐฯเท่านั้น
หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ สตาร์ตีพิมพ์บทความว่า การที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เปลี่ยนชื่อ "ทะเลจีนใต้" เป็น "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" จะทวีความรุนแรงในข้อขัดแย้งทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ คำพูดที่ว่า "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก" ทำให้รู้สึกประหลาดใจ ถ้าตามแนวคิดนี้การตั้งชื่อดังกล่าว ก็ย่อมสามารถเกิดขึ้นที่อื่น เช่นสหภาพแอฟริกาอาจจะเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อน่านน้ำแอฟริกาเป็น "ทะเลแอฟริกา" อิหร่านก็อาจจะออกคำสั่งเปลี่ยนชื่อน่านน้ำทะเลอาหรับเป็น "ทะเลเปอร์เซีย"บ้าง สิ่งที่แย่ที่สุดคือ ปาเลาอาจจะประกาศเปลี่ยนชื่อ"อ่าวฟิลิปปินส์" เป็น "อ่าวปาเลา"
Ton/kt