ในประเทศจีน ชาวภาคเหนือกับภาคตะวันตกนิยมทานหม้อไฟ แต่หม้อและอาหารที่ใช้นั้น มีความแตกต่างกัน
ที่กรุงปักกิ่ง ช่วงฤดูหนาว อาหารที่ได้รับความนิยมที่สุด ก็คือ หม้อไฟ ชาวปักกิ่งนิยมใช้หม้อสุกี้ที่เป็นทองแดงทรงกลม ตอนกลางมีปล่องควันสูงประมาณ 1 ฟุต ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง อาหารที่ใช้นั้น มีทั้งเนื้อแพะ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น เห็ด ผักต่างๆ ตลอดจนเต้าหู้หลายชนิด สุดท้าย ที่ขาดไม่ได้คือ "เซาปิ่ง"ที่เคลือบด้วยงา ปัจจุบัน ที่ประเทศจีน ร้านหม้อไฟของชาวจีนมุสลิมที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ "ตงไหลสุ้น" มีสาขาทั่วประเทศจีน ขายดีมาก สำหรับหม้อไฟชนิดนี้ น้ำจิ้มสำคัญที่สุด ส่วนใหญ่เป็นน้ำจิ้ม "หมาเจี้ยง" คือ น้ำจิ้มงา เหนียว ข้น หอม ผสมกับเต้าหู้ยี้เล็กน้อย ใส่ต้นหอมและผักชีนิดหน่อย อร่อยมาก ชาวปักกิ่งจะให้ความสำคัญกับน้ำจิ้มงาอย่างยิ่ง กล่าวได้ว่า ถ้าร้านไหนทำน้ำจิ้มได้รสเด็ดถูกใจ จะมีลูกค้าประจำตลอดเวลา
ที่ประเทศเกาหลีใต้ ก็มีประเพณีรับประทานหม้อไฟเช่นกัน โดยเฉพาะหม้อไฟซี่โครงวัว ร้านที่มีชื่อเสียงและดั้งเดิม จะคัดเลือกวัวอายุประมาณ 1 ปี หนักประมาณ 100 กิโลกรัม ตัดซี่โครงตอนกลางเท่านั้น เนื้อจะอ่อน และไม่มีไขมัน มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
ทานหม้อไฟร้อนๆ และบะหมี่เกาหลีเย็น สะใจมากๆ
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีหม้อไฟซูซิ ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะชาวนา จะนำเนื้อปลาและผักใส่ลงในหม้อ ต้มไปทานไป ต่อมาชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีเนื้อวัวคุณภาพดี ก็เพิ่มเข้าไปอีก แต่อย่างไรก็ตาม อาหารทะเลยังเป็นส่วนประกอบหลักของหม้อไฟญี่ปุ่น
นอกจากนี้ วัยรุ่นยังคงชอบหม้อไฟอีกชนิดหนึ่ง คือ หม้อไฟช็อกโกแลต หรือ หม้อไฟไอสครีม จะเป็นอาหารหวาน หรือ ของว่าง ขายตามร้านไอสกรีม เช่น ไฮเก้นดาส ก็มีไอสครีมชุดหม้อไฟ จะเป็นหม้อเล็กๆ ใส่ช็อกโกแลตร้อนๆ ที่ละลายอยู่ด้านในหม้อ ด้านล่างจะจุดเทียนให้อุ่นตลอด จะมีไอสครีมและผลไม้หลายๆชนิดรอบๆ อยากทานอะไรก็หยิบไปจิ้มช็อกโกแลต พอช็อกโกแลตเจอกับความเย็น จะแข็งตัวได้รสอร่อยทีเดียว
(YING/Ping)