วันนี้อากาศดี ทำให้นึกถึงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีเพียง 5 วันเท่านั้นที่ไม่มีหมอกลงหนาจัด ทำให้ชาวปักกิ่ง ชาวจีน จนกระทั่งชาวทั่วโลกต้องพากันสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยมีดาราภาพยนต์ชื่อดังคนหนึ่งเขียนไมโครบล๊อกว่า เราจะไปใช้ชีวิตกันที่ไหนในเมื่อแก่ลงแล้ว
อากาศดีๆ มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของเรา
สำหรับชาวจีน ถ้ามีเงื่อนไขพร้อม มักจะคิดย้ายไปอยู่ต่างประเทศเพื่อหนีอากาศไม่ดี แต่ความจริง ไม่ว่าอยู่ที่ใด บนโลกใบนี้ ก็คงจะหนีมลภาวะที่สร้างขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์เองไม่ได้เลย ดังนั้น จึงมีคนเริ่มคิดและลงมือหาที่พักอาศัยนอกโลก ซึ่งดาวอังคารก็เป็นทางเลือกอันดับแรก วันนี้ เราจะคุยเรื่อง ชาวโลกวางแผนจะอพยพไปอยู่ดาวอังคาร ซึ่งรวมถึงชาวจีนประมาณ 500 คนด้วย
ประมาณต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา องค์กร "มาร์ส วัน"(Mars One) ของเนเธอร์แลนด์ประกาศจะรับสมัครอาสาสมัครจากทั่วโลกขึ้นไปยังดาวอังคาร และจะจัดการคัดเลือกในรายการโทรทัศน์ทั่วโลก ตามแผนกำหนด ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะมีโอกาสขึ้นไปและใช้ชีวิตบนดาวอังคารในปี 2023 โดยครั้งแรกจะส่งขึ้นไปก่อน 4 คน เพื่อสร้างบ้านพักและสิ่งสาธารณูปโภคที่อำนวยความสะดวกการใช้ชีวิต ต่อไปจึงจะส่งอาสาสมัครรุ่นที่ 2 จำนวน 4 คนไปในปี 2025 สำหรับผู้สนใจดาราศาสตร์และอวกาศศึกษาแล้ว ถือว่าเป็นข่าวดีจริงๆ ตั้งแต่องค์กรดังกล่าวเริ่มจัดการรับสมัครทางอินเตอร์เน็ตเมื่อวันที่ 9 มกราคมจนถึงปัจจุบัน มีอาสาสมัครจากทั่วโลกกว่า 1,000 คนยื่นเจตจำนงแล้ว ในจำนวนนี้ มีชาวจีนถึง 450 คน
บ้านพักบนดาวอังคาร
เรามักเข้าใจว่า การขึ้นไปยังดาวอังคารน่าจะเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระดับสูงที่มีความเข้มงวดอย่างยิ่งเท่านั้น ต้องเลือกบุคคลที่ผ่านการเคี่ยมกรำทางวิชาการมาเป็นเวลานาน แต่เว็บไซต์ของ "มาร์ส วัน" ประกาศว่า ทั้งโครงการและเงื่อนไขของนักบินอวกาศ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางวิชาการระดับสูงและไม่เข้มงวดตามที่คาดคิด มีความผ่อนคลายมากในด้านสภาพร่างกายและอายุ เช่นสำหรับสายตา ไม่จำเป็นต้องมีสายตาดี ถ้าใส่แว่นตาหรือคอนแทคต์ เลนส์แล้วมองเห็นเป็นปกติก็ได้ ความสูงของร่างกายอยู่ระหว่าง 157- 190 ซม. ส่วนอายุแค่จำกัดให้มากกว่า 18 ปีเท่านั้น
แม้ว่าเงื่อนไขบังคับ 5 ประการ ก็ไม่บังคับให้มีความรู้หรือเทคนิคพิเศษทางด้านวิชาการ แต่ขอเพียงให้มีความอดทนสูง ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ง่าย มีความน่าเชื่อถือ และมีความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนต้องมีความใฝ่รู้ หมายถึงในสภาวะที่ย่ำแย่และลำบากที่สุด ต้องยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง สามารถปรับจิตใจและอารมรณ์ให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี นอกจากนี้ ควรเชื่อมั่นตนเองและผู้อื่น เปิดใจรับข้อเสนอและความเห็นที่แตกต่าง และยินดีรับสื่อสารสนเทศต่างๆ นานาจากภายนอก เห็นได้ว่า องค์กรดังกล่าวให้ความสนใจต่อความสามารถทางอารมณ์หรืออีคิวมากกว่าระดับสติปัญญาหรือไอคิว
นักบินอวกาศกับยานอวกาศ
แต่ไม่ว่าคนใด ต้องสอดคล้องกับเงื่อนไขบังคับประการหนึ่งคือ ต้องพูดและใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เพื่อให้สมาชิกทุกคนสามารถเข้าใจและร่วมมือกันได้ราบรื่น ผู้รับผิดชอบขององค์กรกล่าวว่า ในด้านการคัดเลือกนักบินอวกาศ นาซาหรือองค์การอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกามีมาตรฐานอย่างเข้มงวด และต้องผ่านการฝึกฝนเป็นเวลานาน ต้องมีประสบการณ์พอสมควร แต่ขององค์กร "มาร์ส วัน" เน้นความกล้าหาญและความสามารถด้านความร่วมมือ เพราะว่าพวกเขาจะต้องอยู่ในดวงดาวแปลกประหลาดด้วยกัน นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดคือต้องมีจิตใจที่มั่นคงและเข้มแข็ง
ทุกคน โดยเฉพาะบรรดาอาสาสมัครย่อมต้องมีข้อสงสัยประการหนึ่งคือ จะเอาเงินทุนมาจากไหน เพราะในโลกปัจจุบัน แม้ว่าการทดลองขึ้นสู่ดวงจันทร์ซึ่งเทียบกับโครงการดาวอังคารแล้วง่ายกว่ามาก แต่เงินทุนก็ยังเป็นก้อนมหึมาที่ไม่ใช่บริษัทหรือเพียงองค์กรเดียวสามารถแบกรับได้ สำหรับเรื่องนี้ ทาง "มาร์ส วัน" ประกาศว่า โครงการนี้จะต้องใช้งบประมาณ 6,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่ง "มาร์ส วัน" ได้ร่วมมือกับกองทุนที่ไม่แสวงหากำไร นอกจากนี้ ยังจะจัดหาเงินทุนเพิ่มจาก 3 ด้านคือ การบริจาคเงินจากทั่วโลก การช่วยเหลือ และการขายเสื้อผ้าและถ้วยกาแฟเกี่ยวกับโครงการนี้
การบุกเบิกดาวอังคาร
แหล่งข่าวแจ้งว่า สำหรับทุกขั้นตอนของโครงการ ตั้งแต่การคัดเลือกนักบินอวกาศ ไปจนถึงการฝึกซ้อม การยิงส่งยานอวกาศไร้มนุษย์ จนถึงการยิงส่งยานอวกาศพร้อมมนุษย์ขึ้นสู่ดาวอังคารอย่างเป็นทางการ ล้วนจะถ่ายทอดผ่านรายการโทรทัศน์หรือวิทยุไปทั่วโลกเพื่อดึงดูดการสนับสนุนและประชาสัมพันธ์สินค้า โดยเงินทุนที่ได้มาจะใช้ในการสั่งซื้อยานอวกาศและรถที่ใช้บนดาวอังคาร ตามแผนการ การคัดเลือกอาสาสมัครจากรายการโทรทัศน์จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ โดยประเทศต่างๆ จะมีอาสาสมัคร เข้ารอบ 20-40 คนสำหรับการคัดเลือกนั้นจะให้ผู้ชมเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด แล้วจะตัดสินให้เข้ารอบการคัดเลือกโดยคณะผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง