ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ นอกจากนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากติดภารกิจการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นแล้ว ผู้นำ ประเทศอื่นๆ ของอาเซียนทั้ง 9 ประเทศต่างเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ ระหว่างการประชุม ทุกฝ่ายได้เจรจาการผลักดันการสร้างประชาคมอาเซียนและการส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคให้ลุ่มลึกยิ่งขึ้นเป็นหลัก นอกจากนี้ ผู้นำประเทศต่างๆ ของอาเซียนยังได้เจรจาในปัญหาที่ได้รับความสนใจอย่างมากในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศด้วย
สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ พระราชาธิบดีแห่งบรูไน ทรงระบุใน "แถลงการณ์ของประธาน" หลังการประชุมว่า การสร้างประชาคมอาเซียนกำลังพัฒนาก้าวหน้า ซึ่งได้ทอดสายตาไปถึงอนาคตการพัฒนาของประชาคมอาเซียนในปี 2015 ด้วยการกำหนดมาตรการและขั้นตอนการสร้างประชาคม พร้อมเสนอเป้าหมายระยะไกลที่พยายามให้ "ประชาชนต้องมาก่อน" เป็นจริงขึ้นได้หลังปี 2015
ปัจจุบัน มาตรการที่กำหนดไว้ในแผนการสร้างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ประสบความสำเร็จแล้ว 259 ประการ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 77.54% ในจำนวนนี้ มาตรการลดและปลอดภาษีสินค้าได้รับผลคืบหน้าอย่างชัดเจนใน 6 ประเทศที่ค่อนข้างเจริญ ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและบรูไน ได้ยกเลิกภาษี 99.65% ของสินค้านำเข้า ส่วน 4 ประเทศที่ด้อยพัฒนา ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม ก็ได้ลดภาษี 98.86% ของสินค้านำเข้าลงถึงต่ำกว่า 5%
Yim/Chu