ช่วงเทศกาลนอกจากคนเยอะรถแยะ ยังมักตามมาด้วยจำนวนขยะที่กองพะเนินเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังสุสานจงซาน หรือสุสาน ดร.ซุนยัดเซ็น ผู้ริเริ่มการปฏิวัติประชาธิปไตยอันยิ่งใหญ่ของจีน ณ เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ในช่วงหยุดฉลองวันแรงงานสากลปีนี้ ต่างออกปากชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน ถึงความประทับใจในความสะอาดของสถานที่

ลุงหยางหยวนหง วัย 52 ปี ทำงานเป็นพนักงานรักษาความสะอาดในสุสานจงซานมานานถึง 30 ปีให้สัมภาษณ์นักข่าวจีนว่า ช่วงวันหยุดแรงงานสากลที่ผ่านมา ต้องเข้างานตอน 7โมงเช้า เร็วจากเดิมครึ่งชั่วโมง และทำยาวไปจนถึง 18.30 น. ซึ่งในช่วงเทศกาลหยุดวันแรงงานช่วงสั้นๆ 3 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. – 1 พ.ค.นี้ เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากปกติ ได้มีการเพิ่มจำนวนพนักงานรักษาความสะอาด ดูแลพื้นที่บริเวณสวนสุสานทั้งหมดรวมแล้วกว่า 300 คนต่อวัน

ลุงหยางว่า แม้จิตสำนึกเรื่องการทิ้งขยะของคนจีนในปัจจุบันได้ยกระดับขึ้นมากแล้ว จากเมื่อ 30 ปีก่อนที่พอถึงช่วงกลางวันเป็นต้องเจอห่อบรรจุภัณฑ์และเศษอาหารให้ต้องกวาดต้องโกยกันยกใหญ่ แต่ถึงกระนั้น พนักงานรักษาความสะอาดในปัจจุบันก็ยังต้องก้มๆ เงยๆ เก็บเศษขยะน้อยใหญ่ตามพื้นสวนอีกนับ 6,000 ครั้ง ต่อวัน ทำเอาปวดหลังปวดเอวกันไม่น้อย โดยจากข้อมูลสถิติ พนักงานรักษาความสะอาดในสุสานจงซานแห่งนี้ ปกติแล้วต้องเก็บกวาดขยะเป็นปริมาณมากถึง 150 กิโลต่อคนต่อวันเลยทีเดียว และสำหรับปีนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง 3 วันนี้เท่ากับ 60,000 คน 110,000 คน และ100,000 คนตามลำดับ

ซึ่งสำหรับที่ปักกิ่งแล้ว พิพิธภัณฑ์กู้กงมักเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวชาวจีนช่วงวันหยุดต่อเนื่อง โดยช่วงวันชาติปีก่อนสร้างสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 180,000 คนต่อวัน แม้ว่าจะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าชมไว้ที่ 80,000 คนต่อวันในช่วงวันหยุดแรงงานสากล แต่ก็ยังเกิดการล้นจนได้ โดยจำนวนนักท่องเที่ยววันแรกปาเข้าไป 96,000 คน วันที่สอง 107,000 คน และเฉพาะครึ่งเช้าถึงตอน 11.00 น.ของวันที่สามก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 41,400 คน

สภาพที่เกิดเหตุและรูปลักษณ์ของนาฬิกาที่ได้รับความเสียหาย

แม้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มากจะเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ แต่กู้กงก็ยังต้องผจญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากการกระทำของนักท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ อย่างที่ตกเป็นข่าวฮือฮาล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวชายใช้มือทุบกระจกกั้นบานหนึ่งในตำหนักอี้คุนกงแตกกระจาย และทำให้นาฬิกาโบราณที่ตั้งโชว์อยู่ด้านในตกพื้นได้รับความเสียหาย ซึ่งภายหลังได้ถูกจับกุมตัวส่งตำรวจและทางผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์กู้กง นายซ่านจี้เสียง ได้จัดแถลงข่าวว่า นาฬิกาโบราณดังกล่าวเป็นสมบัติเก่าแก่ของพระราชวังกู้กงที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติ ซึ่งผลิตโดยประเทศอังกฤษในศตวรรษที่ 18 โดยความเสียหายที่ได้รับสามารถซ่อมแซมได้

ส่วนเรื่องระบบป้องกันรักษาความปลอดภัย ที่หลายคนนึกกังขาในการใช้กระจกที่ไม่หนาพอสามารถทุบแตกได้ด้วยมือเปล่านั้น เป็นเพราะบานกระจกในตำหนักดังกล่าวเป็นของเดิมอย่างน้อยก็ก่อนปีค.ศ. 1949 เพราะทางพิพิธภัณฑ์กู้กงต้องการคงสภาพตามเดิมทางประวัติศาสตร์ไว้ แต่ภายหลังเกิดเหตุก็จะเพิ่มการติดตั้งกระจกนิรภัยป้องกันการทุบ รวมถึงเพิ่มกล้องวงจรปิดที่มีความคมชัดสูง ช่วยในการสอดส่องดูแลทุกซอกทุกมุมของพระราชวังกู้กงให้มากขึ้นด้วย

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府