ร้านหม่าจู้หยวน ปัจจุบันตั้งอยู่ถนนต้าซ่าหลานของเฉียนเหมิน เป็นยี่ห้อเก่าแก่ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1817 จนถึงปัจจุบันมีอายุ 185 ปีแล้ว เป็นร้านที่ผลิตหมวกโดยเฉพาะ สมัยราชวงศ์ชิง ใครๆ ก็สวมหมวกหม่าจู้หยวน และสามารถภูมิใจโอ้อวดกับเพื่อนๆ ได้ แสดงว่ายี่ห้อนี้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งของชาวบ้าน ช่วงเริ่มต้น ร้านหม่าจู้หยวนเพียงรับทำหมวกให้กับคนรวย แล้วค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาเป็นหมวกที่ทำเพื่อข้าราชการโดยเฉพาะ หลังจากจีนดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศแล้ว ร้านหม่าจู้หยวนเริ่มออกแบบและรับใบสั่งทำหมวกของชนเผ่าส่วนน้อยต่างๆ จนกลายเป็นยี่ห้อที่โดดเด่นและเติบโตอีกครั้งในยุคสมัยใหม่

เสิ้งซีฝู เป็นร้านจำหน่ายหมวกที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง บริษัทลูกอยู่ที่นครเทียนจิน แต่มาเปิดสาขาที่กรุงปักกิ่งตั้งแต่ปี 1937 นับเวลาแล้วก็หลายสิบปี เนื่องจากประกอบกิจการในกรุงปักกิ่งมายาวนาน จึงได้รับการยอมรับจากชาวปักกิ่งด้วย โดยเฉพาะหมวกหนัง ไม่มียี่ห้อไหนเทียบเคียงได้เลย หลังจากสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 1949 นายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีจีนสมัยนั้น ให้ความสนใจและเสนอให้จัดตั้งโรงงานผลิตหมวกขึ้นมาอย่างเป็นทางการที่กรุงปักกิ่ง และกลายเป็นโรงงานที่ออกแบบและผลิตหมวกให้กับผู้นำจีนหลายๆ คน เช่น นายเหมา เจ๋อตง นายโจว เอินไหล นายหลิว เส้าฉี นายเฉิน อี้ และนายว่าน หลี่ นอกจากนี้ ยังได้ผลิตหมวกเป็นของขวัญมอบให้ผู้นำต่างประเทศอีกด้วย เช่น นายคิม อิลซุง อดีตประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ และนายซูการ์โน อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปัจจุบัน ถ้าเราเดินทางไปยังถนนหวางฝู่จิ่ง ก็จะเห็นมีหมวกจำลองอยู่ในตู้โชว์ ซึ่งเป็นการบันทึกถึงประวัติศาสตร์อันโด่งดังของยี่ห้อนี้ ผลสำเร็จของยี่ห้อนี้ ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับมีสินค้านานาประเภท แต่สาเหตุสำคัญเพราะมีเทคนิคการทำที่ละเอียดประณีต

เน่ยเหลียนเซิง เป็นร้านทำรองเท้าที่มีชื่อเสียง "เน่ย" แปลว่าภายในราชวัง เหลียน แปลว่าต่อเนื่องกัน เซิง แปลว่าเลื่อนชั้น จึงมีความหมายรวมๆ แสดงว่า เมื่อใครใส่รองเท้ายี่ห้อนี้แล้ว จะเลื่อนชั้นก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สินค้าที่ขึ้นชื่อที่สุดคือรองเท้าผ้า ที่มีพื้นรองเท้า "พันชั้น" พื้นรองเท้าของเน่ยเหลียนเซิง คัดเลือกผ้าฝ้าย ผ้าป่าน และผ้าขนสัตว์ ใช้มือถักหรือปักอย่างหนาแน่น คำว่า "พันชั้น" แสดงให้เห็นถึงความละเอียด ตามหนังสือที่บันทึกไว้ เคยจัดทำรองเท้าให้กับขุนนางชั้นสูง พื้นรองเท้าหนาถึง 32 ชั้นทีเดียว ส่วนเจ้าของร้านเป็นคนประณีต ให้ลูกน้องจดจำขนาดเท้าของขุนนางทุกคน วันหลังพอบอกชื่อเท่านั้น ก็สามารถทำรองเท้าได้และส่งให้ถึงบ้านด้วย จนทำให้ยี่ห้อเน่ยเหลียนเซิงตั้งยืนยงมาได้อย่างดีท่ามกลางคู่แข่งต่างๆ

(Ton/Ping)