เมื่อเร็วๆ นี้ ฟิลิปปินส์ประท้วงเกี่ยวกับเรือรบ 1 ลำ เรือตรวจการณ์ทางทะเล 2 ลำ และเรือประมงหลายลำของจีนแล่นเรือผ่านน่านน้ำแนวปะการังเหรินอ้ายของหมู่เกาะหนานซา ต่อกรณีนี้ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายหง เหล่ยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า การที่เรือจีนลาดตระเวณในน่านน้ำที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ผิดแต่อย่างใด ผู้เชี่ยวชาญจีนด้านทหารของจีนระบุว่า จีนควรแล่นเรือลาดตระเวณเป็นประจำในน่านน้ำที่มีข้อขัดแย้ง เพื่อเป็นการรักษาอธิปไตยของดินแดน

ตั้งแต่โบราณกาล น่านน้ำแนวปะการังเหรินอ้ายเป็นแหล่งทำการประมงและที่พักสำคัญของชาวประมงจีน

แนวปะการังเหรินอ้ายตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของหมู่เกาะหนานซา ขึ้นตรงต่อเมืองซานซา มฑณลไห่หนานของจีน ซึ่งตั้งห่างจากแนวปะการังเหม่ยจี้ของหมู่เกาะหนานซา 14 ไมล์ทะเล ห่างจากเกาะปาลาวันของฟิลิปปินส์ 150 ไมล์ทะเล เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1999 เคยมีเรือฟิลิปปินส์เก่าลำหนึ่งพักที่แนวปะการังเหรินอ้ายเพื่อซ่อมเรือ ต่อจากนั้น ฟิลิปปินส์จึงจัดส่งนายทหารไปประจำแนวปะการังเหรินอ้ายเรื่อยมา เพื่อยึดแนวปะการังเหรินอ้ายอย่างผิดกฎหมาย และประกาศว่า เป็นดินแดนของฟิลิปปินส์ ศาสตราจารย์จาง เจาจง จากมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศของจีนกล่าวว่า การกระทำนี้ถือเป็นการยึดแนวปะการังของจีนอย่างผิดกฎหมายและโจ่งแจ้ง

ศาสตราจารย์จาง เจาจง กล่าวอีกว่า ตามสนธิสัญญาปารีสที่ฟิลิปปินส์กับสหรัฐฯ ร่วมกันลงนามเมื่อปี 1898 และเอกสารอีก 2 ฉบับ การที่ฟิลิปปินส์ยึดแนวปะการังดังกล่าว และน่านน้ำอื่นๆ ในหมู่เกาะหนานซา ซึ่งรวมถึงเกาะหวงเอี๋ยนนั้น ล้วนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้น เขาเห็นว่า จีนใช้วิธีลาดตระเวณเป็นประจำในน่านน้ำแนวปะการังเหรินอ้ายเพื่อรักษาอธิปไตยนั้น เป็นการเหมาะสมอย่างยิ่ง หากเป็นไปได้ ควรจะใช้วิธีนี้ต่อไปในแนวปะการังอื่นๆ ด้วย

Ying/Ldan