ตามที่กฎหมายระบุ รัฐบาลมีภาระหน้าที่ที่จะให้หลักประกันด้านเกษตรกรรมแก่เกษตรกร และช่วยชดเชยความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ภัยจากโรคและแมลงศัตรูพืชและภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง รัฐมนตรีเกษตรอินโดฯ เผยว่า บริษัทประกันภัยมหาชนแห่งหนึ่งจะรับผิดชอบต่อการประกันภัยด้านเกษตรกรรม และรัฐบาลจะออกเงินประกันส่วนใหญ่ ขณะนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียใช้วิธีการให้เมล็ดพันธุ์พืชและปุ๋ยเคมีชดเชยความเสียหายจากการเก็บเกี่ยวของเกษตรกร
กฎหมายคุ้มครองเกษตรกรระบุว่า จะปรับการนำเข้าผลิตผลเกษตรเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของเกษตรกร และบังคับให้รัฐบาลสั่งการให้ด่านศุลกากรคุ้มครองผลิตผลเกษตรภายในประเทศ โดยให้ด่านนำเข้าสินค้าเกษตรต้องอยู่ห่างไกลจากเขตเกษตรกรรมหลักๆ ของอินโดนีเซีย ถ้าผู้นำเข้ากระทำผิดกฎหมายฉบับนี้ ก็จะลงโทษด้วยการปรับเงิน 6 แสนเหรียญสหรัฐ และติดคุก 6 ปี กฎหมายฉบับนี้ยังสั่งห้ามผู้ประกอบการนำเข้าผลิตผลเกษตรในฤดูการเก็บเกี่ยวและในกรณีอุปทานของตลาดภายในประเทศเพียงพอ หากฝ่าฝืนจะถูกจำคุก 2 ปีและเสียค่าปรับ 2 แสนเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียยังต้องให้การสนับสนุนต่อการสมทบทุนของเกษตรกรด้วย โดยมอบหมายให้ธนาคารภาครัฐบาลแห่งหนึ่งและองค์กรการเงินทางเกษตรกรรมให้เงินสนับสนุน และลดเงื่อนไขขอเงินกู้ของเกษตรกรและทำให้ขั้นตอนปฏิบัติง่ายขึ้น
รัฐบาลอินโดนีเซียยืนยันหลังผ่านกฎหมายคุ้มครองเกษตรกรว่า รัฐจะไม่เลิกการนำเข้าสินค้าเกษตร เพราะอินโดฯ ไม่สามารถผลิตสินค้าเกษตรบางชนิดได้ และสินค้าเกษตรภายในประเทศไม่ได้ตอบสนองความต้องการในตลาดได้ตลอดเวลา กฎหมายฉบับนี้ย่อมจะไม่ทำลายความสัมพันธ์ทางการค้ากับต่างประเทศ
ทั้งนี้อินโดนีเซียเป็นประเทศเกษตรกรรม เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา ยอดมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรสูงถึง 23,640 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้รัฐมีข้าวสารสำรองปริมาณ 6 ล้านตัน แต่ก็ยังนำเข้าข้าวสารอีก 8.11 แสนตัน
YIM/FENG