จากปักกิ่งเดินทางไปเถิงชงต้องอาศัยเครื่องบิน ซึ่งเที่ยวบินต้องแวะจอดหรือเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินของเมืองคุนหมิง ขณะนี้ ในปัจจุบัน การเดินทางจากเมืองคุนหมิงถึงอำเภอเถิงชงแต่ละวันมีเที่ยวบินประมาณ 6 เที่ยว บินประมาณ 50 นาทีเท่านั้น ยังไม่มีรถไฟจากคุนหมิงไป แต่หากอยากจะนั่งรถบัสจากคุนหมิงไปเถิงชงก็ได้
สนามบินเถิงชงเป็นสนามบินไม่ใหญ่นัก เพราะตั้งอยู่บนยอดเขา แลไปไม่ไกล ก็เห็นป่าไม้ที่เขียวขจี ดูเหมือนตั้งอยู่กลางป่าเขา นั่งรถจากสนามบินไปตัวเมืองสะดวกสบาย เพราะห่างกันแค่ 10 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น ต้นไม้ที่อยู่สองข้างทางเป็นสีเขียวที่ให้ความสดชื่น ความชื้นที่นี่คงอยู่ในระดับพอเหมาะพอควร ต่างกับอากาศแห้งแล้งที่กรุงปักกิ่ง ทำให้พวกเราอยากจะใช้คำว่า "อากาศสดชื่นดี" มาชื่นชม
เมื่อนำกระเป๋าเดินทางวางไว้ที่โรงแรมที่จองจากเน็ตล่วงหน้าแล้ว เราก็เหมารถคันหนึ่งไปตำบลเหอซุ่น ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 10 ตำบลเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงของจีน
ตำบลเหอซุ่นอยู่ห่างจากอำเภอเมืองเถิงชงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นสถานที่กำเนิดอัจฉริยะบุคคลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และนับเป็นบ้านเกิดของชาวจีนโพ้นทะเลที่มีชื่อเสียง เพราะประชากรกว่าครึ่งหนึ่งเป็นญาติพี่น้องของชาวจีนโพ้นทะเลที่กระจัดกระจายอยู่ในเมียนมาร์ อินเดีย ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น แคนาดาและสหรัฐฯ นอกจากนั้น ตำบลนี้ยังได้ชื่อว่า แหล่งส่งเสริมการอ่านหนังสือหาความรู้ เพราะมีหอสมุดเก่าแก่ตั้งอยู่ที่นี่กว่า 80 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ เป็นหอสมุดหมู่บ้านแห่งเดียวของจีน โดยมีบุคคลชื่อดังหลายคนเคยมาที่นี่และเขียนข้อความเยี่ยมชมทิ้งไว้ที่นี่ด้วย
ค่าผ่านประตูของตำบลเก่าแก่เหอซุ่นคือ 80 หยวน หรือประมาณ 400 บาท ทางเข้าหมู่บ้านมีสะพานเก่าแก่ตั้งอยู่ ข้างๆ หัวสะพานมีผู้สูงอายุขายอาหารพื้นเมืองประมาณ 2-3 เจ้า มีผลไม้พื้นบ้านหน้าตาแปลกใหม่ที่เราไม่เคยเห็น และมีขนมที่ทำจากเกสรดอกไม้ของต้นสน ต่างใส่ในตะกร้า ขายหมดเมื่อไหร่ คุณลุงคุณป้าก็ยกตะกร้ากลับบ้านกัน ใต้สะพานเป็นธารน้ำไหลรินที่ล้อมรอบตำบล คล้ายคูเมือง ในนั้นมีฝูงเป็ดจำนวนมากลอยตามน้ำไปๆ มาๆ เพื่อหาของกินในน้ำ เห็นเป็ดดำผุดดำว่ายกุ้มหัวหาปลาเล็กปลาน้อยอยู่อย่างสบายใจ บนผิวน้ำมีแต่ก้นเป็ดชี้ฟ้า ปรากฏการณ์ขำๆ แบบนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายดูจนเพลิดเพลิน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อกินอิ่มแล้ว เป็ดทั้งหลายก็เรียงเป็นแถวตากแดดย่อยอาหาร เมื่อเทียบกับตำบลเก่าแก่อื่นๆ เช่น โจวจวง และอูเจิ้งแล้ว เหอซุ่นมีความเป็นธรรมชาติและเรียบง่ายมากกว่า ไม่ว่าพิพิทธภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมทางตะวันตกเฉียงใต้ ร้านอาหารจานเด็ด รวมทั้งคนท้องถิ่นที่มีอัธยาศัยไมตรีอันดี ต่างเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ชวนหลงไหล แม้กระทั่งนั่งมองเมฆขาวฟ้าใสเป็นเวลานานๆ มองดูหญิงสาวซักผ้าในธารน้ำใสสะอาด ไม่น่าเชื่อเลยว่า ความกังวลที่ติดมาจากเมืองใหญ่สามารถมลายหายไปได้อย่างหมดสิ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ไปยูนนานไม่ไปเถิงชงสุดเสียดาย แต่ถ้าไปเถิงชงแล้วไม่ไปตำบลเก่าแก่เหอซุ่น คงพูดได้ว่า ไปเสียเที่ยว