หลังได้ชนะการเลือกตั้งวุฒิสภาแล้ว นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะดำเนิน "มาตรการต่างประเทศที่มีพลัง" และจะเดินทางไปเยือนมาเลเซีย สิงคโปร์และฟิลิปปินส์เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 3 ในการเยือนประเทศอาเซียนของนายกฯ ญี่ปุ่น ตั้งแต่การขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า นายอาเบะกำลังรีบหาหุ้นส่วนทางไกล โดยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตึงเครียดทางการทูตกับประเทศรอบข้าง เช่น จีนและเกาหลีใต้

ระหว่างการเยือน นายกฯ ญี่ปุ่นจะจัดการเจรจากับผู้นำประเทศต่างๆ ของอาเซียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ในการเจรจากับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ นายอาเบะจะแนะนำนโยบายเศรษฐกิจและจุดยืนในการตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือทีพีพี ของญี่ปุ่น ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ นายอาเบะยังจะเจรจากับนายเบนิกโน อากีโนที่ 3 ประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และแสดงท่าทีที่อยากจะเสนอเรือลาดตระเวนให้กับฟิลิปปินส์ กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าวว่า สองฝ่ายจะเจรจาในความร่วมมือทวิภาคีและปัญหาส่วนภูมิภาค และผลักดันความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของสองประเทศให้ขึ้นไปอีกขั้น

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวจิจิ เพรสส์ รายงานว่า การเยือนครั้งแรกหลังนายอาเบะชนะการเลือกตั้งวุฒิสภามีเป้าหมายใหญ่ที่สุดที่จะดำเนิน "ยุทธศาสตร์การทูตเพื่อค่านิยม" โดยเสนอขณะเยือนอินเดียเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2007 เขาเรียกร้องให้อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐฯ และญี่ปุ่นสร้างสมาพันธ์ทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ เพื่อกลายเป็นวงล้อมแห่งเสรีภาพและความเจริญที่ทวีปยุโรปและเอเชีย

สำหรับเรื่องที่ญี่ปุ่นจะเสนอเรือลาดตระเวนให้กับฟิลิปปินส์ สำนักข่าวเคียวโดนิวส์ออกบทความเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม โดยระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว ฟิลิปปินส์เคยเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเสนอเรือลาดตระเวน 10 ลำ ญี่ปุ่นอาจมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมกำลังตำรวจทางทะเลโดยช่วยเหลือฟิลิปปินส์ เพื่อรับมือจีน ซึ่งมีความเคลื่อนไหวบ่อยครั้งในน่านน้ำบริเวณหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋

Yim/Chu