ในโอกาสที่ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 10 ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ จีนกับอาเซียน ขณะที่จีนกำลังมีปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับหมู่เกาะในทะเลจีนใต้กับหลายประเทศในอาเซียน อาทิ เวียดนาม และฟิลิปปินส์
นายกวี จงกิจถาวร ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีป้า) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีวิทยุซีอาร์ไอ ภาคภาษาไทยว่า ขณะนี้ ประเทศไทยในฐานะของหนึ่งในชาติสมาชิกอาเซียน ได้รับบทบาทให้เป็นประเทศผู้ประสานงานอาเซียน จึงมีภารกิจที่สำคัญและท้าทายอย่างมากรออยู่ข้างหน้าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ 20 เดือน เพื่อจะกอบกู้ความเชื่อมั่นของอาเซียนในสายตานานาชาติให้กลับมาเข้มแข็งและมีเอกภาพได้มากขึ้น หลังจากที่ปีที่แล้วมีปัญหา เพราะสมาชิกอาเซียนไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับปัญหาหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ เป็นครั้งแรกที่อาเซียนไม่สามารถออกข้อตกลงแถลงการณ์ร่วมได้
ในขณะนี้ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียน ซึ่งจีนเชื่อมั่นในบทบาทของไทยมาก ทำให้แนวโน้มการเจรจาจะมีข้อได้เปรียบมากกว่า จีนจะให้ความสำคัญกับอาเซียนได้ต่อเมื่ออาเซียนกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว ไทยจึงต้องทำหน้าที่ให้ดี ที่สุดเพื่อให้ประสานงานให้เกิดการเจรจา พูดคุยและสามารถทำขัอตกลงให้ได้ข้อสรุปที่ดีร่วมกัน
สำหรับความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียนนั้น ทั้งสองฝ่ายต้องการเพิ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เพิ่มปริมาณการค้าให้มากขึ้น ซึ่งเดิมมีความร่วมมือระหว่างกันที่ดีมากอยู่แล้ว โดยคาดว่า อีกสองสามปีข้างหน้า จะสามารถขยายมูลค่าได้มากถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ก็ยังมีการเจรจาเพิ่มเติมว่า จะสามารถสร้างความร่วมมือในกรอบที่ใหญ่กว่านี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจที่จีนกับอาเซียนจะขยายไปสู่ เกาหลี กับญี่ปุ่น เนื่องจากขณะนี้ในระดับภูมิภาคมีการรวมกลุ่มต่างๆและมีการแข่งขันกันสูง ดังนั้น อาเซียนจึงต้องกำหนดนโยบายและทิศทางการก้าวเดิน ต้องให้ความสำคัญกับเอกภาพของประชาคม และความสัมพันธ์กับจีน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางการเมืองที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน
ก่อนหน้านี้ วันที่ 13-14 สิงหาคมที่ผ่านมา ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนอกรอบที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบฯ เพื่อหารือประเด็นการวางตัวและบทบาทระหว่างอาเซียนกับจีน และวางแนวทางการเดินต่อไปในอนาคตข้างหน้า
ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกอาเซียนจะเดินทางมาประชุมร่วมกันที่กรุงปักกิ่ง เพื่อหารือกันต่อว่าจะหาทางแก้ไขข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ และวางแนวทางความร่วมมือในอนาคตอย่างไรต่อไป
ส่วนช่วงกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโส เพื่อเตรียมงานประชุมจีนอาเซียนในกรุงปักกิ่งด้วย ซึ่งเป็นการประชุมที่สำคัญมากเพราะผู้เกี่ยวข้องจะมาร่วมกันร่างและวางแนวทางการแก้ไข รวมทั้งแนวปฏิบัติในปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้