คุณเอกพงษ์ นบสกุล DJ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยหรือสวท. ผู้จัดรายการ "คนหามาเล่า" เขาเป็นคนพิการทางสายตา แต่สามารถสมัครสอบร่วมกับคนปกติเพื่อเข้าทำงานในสวท. จนได้ ความ
มุมานะบากบั่นเพื่อเป้าหมายชีวิตของเขา เป็นตัวอย่างและกำลังใจสำหรับทั้งคนไทยและคนจีน
ผู้สื่อข่าว ก่อนที่จะเข้ามาทำงานมีการสมัครสอบใช่ไหมครับ
เอกพงษ์ นบสกุล ใช่ครับ คือ สวท. เปิดรับสมัคร ผมก็สมัครเข้ามา วิธีการที่เขาทดสอบคือ หนึ่ง เสียง สองคือทำรายการวิทยุ ว่าเรามีความเข้าใจขในการทำรายการวิทยุหรือไม่ และให้ลองผลิตรายการด้วย คือเขาวัดกันด้วยวิชาชีพที่เราเรียนมา เราก็เลยสามารถเข้ามาได้
ผู้สื่อข่าว ตอนที่สมัครสอบคือร่วมกับคนปกติ
เอกพงษ์ นบสกุล ใช่ครับ ตามปกติคือ ความรู้ทั่วไปของกรมประชาสัมพันธ์หรือ พีไอดี ว่าเรามีความรู้แค่ไหนต่อหน่วยงานี้ วิธีการทำสารคดี หรือเรื่องทั้งหมดที่เป็นองค์ประกอบของวิทยุ ว่าเราสามารถที่จะมีความรู้แค่ไหน จนผมสามารถที่จะสอบผ่านกันเข้ามาได้ จากรอบสุดท้ายเหลือ 590 คน แล้วเพื่อที่จะสอบเข้ามา ต้องการแค่ 198 คน ผมได้เป็น 1 ใน 198 นั้น คือสอบได้ที่ 2 นะครับ ก็เลยเลือกที่นี่เป็นสถานที่ในการทำงาน
ผู้สื่อข่าว เดี๋ยวนี้มีแฟนรายการของคุณมากไหมครับ
เอกพงษ์ นบสกุล แฟนรายการมีเยอะครับ วัดจากการส่งจดหมาย แล้วก็เดี๋ยวนี้ส่งเป็นข้อความสั้นหรือ เอสเอ็นเอสเข้ามา เวลาเราตั้งประเด็นอะไรขึ้นมา เช่น วันนี้ตรงกับวันงดสูบบุหรี่โลก เขาก็เขียนมาบอกว่าให้กำลังใจกับคนที่อยากเลิกสูบบุหรี่
ผู้สื่อข่าว คุณเอกพงษ์ นบสกุลคุ้นเคยกับจีนไหมครับ
เอกพงษ์ นบสกุล สำหรับจีน ผมเป็นคนชอบวิถีชีวิตของเขามาก เพราะว่า หนึ่งบรรยากาศของหลายเมืองที่รู้สึกว่า มีความเป็นธรรมชาติเยอะ เช่นผมสนใจเรื่องที่เขาใช้ปั่นจักรยานอยู่เลย ซึ่งได้ออกกำลังกาย แล้วก็แถมหลายๆ เมืองมีภูเขา มีอากาศที่สดชื่นที่ดี และก็เป็นคนชอบฟังดนตรีจีนมากที่สุด แต่ก็ยังไม่เคยไป
ตอนที่ผมอยู่ทีนี่ที่สวท. ทุกปีจะมีกิจกรรมกับจีนอยู่ตลอด อย่างเช่นแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมีคอนเซิร์ทไทย – จีนอย่างที่เมื่อปีที่แล้ว ก็มีศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงจากจีนมาเล่นคอนเซิร์ท์ที่ประเทศไทยร่วมกับนักร้องศิลปินของประเทศไทย เราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งไปนั่งฟังเสียงบรรยากาศ ก็รู้สึกดีนะครับ
ผู้สื่อข่าว ถ้ามีโอกาสไปปักกิ่ง จะไปจับกำแพงเมืองจีนบ้างไหมครับ
เอกพงษ์ นบสกุล ผมมีความฝันนะ เคยได้ยินกำแพงเมืองจีนมาตั้งแต่เด็กๆ พอโตมา เราก็ได้เรียนรู้ในวิชาประัวัติศาสตร์ว่า จีนนี่ เมื่อก่อนแข้มแข็งมาก จนเขาต้องมีกำแพงเมืองจีนยาวมาก แล้วใช้แรงก่อสร้างกำแพงเมืองจีนขึ้นมาจำนวนมาก เราก็เลยเกิดจินตนาการขึ้นมา ไหนๆ เราไม่เคยเห็นมาก่อน ที่ว่ากำแพงต้องสูงมาก และต้องยาว แล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่ใช้คนสร้างกำแพงที่ใหญ่ สูง ยาวได้ขนาดนั้น ก็มีความรู้สึกว่าเราก็อยากจะไปให้ถึงกำแพงเมืองจีน และอยากจะไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งว่า กำแพงที่ใช้หิน ใช้อิฐ ที่เป็นแรงคนสร้างทั้งหมด มันจะอยู่ยังไง ยังไงมีคนมาอธิบายมากเท่าไหร่ เราก็เข้าใจไม่ลึกซึ้งอยู่แล้ว ไม่เหนือที่เราบอกว่าไปลองสัมผัสเอง แล้วเราจะรู้ว่ากำแพงเมืองจีนเป็นอย่างนี้ๆ
ที่ผ่านมาเวลาเรียนวิชาประวัติศาสตร์ มีคนมาอธิบายให้เรา อาจารย์ที่สอนประวัติศาสตร์มาเล่าให้ฟังว่า กำแพงเมืองจีนมันอย่างนี้นะ ยาวกี่เมตร สูงเท่าไหร่ ก็อยากไปสัมผัสเอง ถ้ามีโอกาสดีๆ จะไก้ไปเยี่ยมเยือนที่นั่น และจะได้ไปพูดคุย เอาบรรยากาศจากประเทศจีนมาฝากคนไทยในประเทศไทยบ้างนะครับ