คุณเอกพงษ์ นบสกุล DJ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยหรือสวท. ผู้จัดรายการ "คนหามาเล่า" เขาเป็นคนพิการทางสายตา แต่สามารถสมัครสอบร่วมกับคนปกติเพื่อเข้าทำงานในสวท. จนได้ ความ

มุมานะบากบั่นเพื่อเป้าหมายชีวิตของเขา เป็นตัวอย่างและกำลังใจสำหรับทั้งคนไทยและคนจีน

ผู้สื่อข่าว ปัจจุบันคุณเอกพงษ์ นบสกุลเป็น DJ ชื่อดังของไทย มีีความคิดเห็นเกี่ยวกับงานนี้อะไรบ้าง

เอกพงษ์ นบสกุล คือจริงๆ การเป็น DJ ใครก็เป็นได้ ผมเข้ามาในระบบทำงานแบบราชากรนี้ ผมสอบเข้ามาแล้ว มันก็จะโอเค ท้ายทายแล้วเราแข่งกับคนปกติ เราไม่ได้เข้ามาโดยสิทธิพิเษศอะไร เราเข้ามาในระบบการสอบ ไม่มีความแจกจ่างอะไร เพียงแต่ว่าข้อสอบจะแบ่งเป็นสาภาค เราขอให้เขาติดตั้งคอมพิวเตอร์ไว้ให้ตัวหนึ่งสำหรับเราใช้เอง เพื่อเอาข้อสอบอักษรที่เราอ่านได้

ผู้สื่อข่าว ขอให้คุณเอกพงษ์ นบสกุลแนะนำประวัติของตนบ้างครับ

เอกพงษ์ นบสกุล ผมเป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด คือตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่แล้วก็มองไม่เห็นอะไรเลย ในชีวิตนี้ไม่เคยเจอแสงสว่างเลย สาเหตุของความิพการก็คือเส้นประสาทตาเสื่อม เติบโตมาในครอบครัวที่ค่อนข้างปางกลาง พ่อแม่ก็เข้าใจเรา ดูแลค่อนข้างดี ก็คือเหมือนบางคน คือลูกตาบอดแล้ว เขาจะดูแลลูกดีมาก ไม่ให้ทำอะไรเลย ให้กินนอนอย่างเดียว แต่ครอบครัวเรานี้ คือจะให้โอกาสพาเราไปเที่ยว ให้รู้ว่าอะไรคือตลาด อะไรคอโรงหนังหรือร้านอาหาร ผมก็จะรู้สึกได้รับการเลี้ยงดูมาค่อนข้างดี

ผู้สื่อข่าว ชีวิตของคุณคือใช้หูไปยินและใ้ช้มือสัมผัสกับโลกนี้ใช่ไหมครับ

เอกพงษ์ นบสกุล ครับ ก็ใชู้หูเราฟังไปเรื่อยๆ จนโตขึ้นแล้ว คนใกล้ๆ บ้านเป็นเจ้าของโรงเรียนทั่วๆไป เขามาบอกกับเราว่า น่าจะพาลูกไปเข้าโรงเรียน เเพราะมีโรงเรียนเฉพาะทางคือสำหรับคนตาบอด ตอนแรกพ่อไม่ค่อยอยากให้ไป เพราะว่าท่านคิดว่ามีลูกคนเดียวพอเป็นอย่างนี้แล้ว ก็จะดูแลเองได้ ไม่ต้องไปให้ใครดูแล แต่ท่านไม่ได้คิดว่าในอนาคตพอเราโตแล้วแก่แล้ว ถ้าไม่พาเราไปเข้าโรงเรียน เราจะดูแลตัวเองได้ยังไง สุดท้ายก็ตัดสินใจ ไปดูก่อนก็แล้วกัน พอไปดูโรงเรียน เห็นเด็กวัยเดียวกับผม เขาช่วยเหลือตัวเองได้ เดินโดยที่ไม่ต้องมีคนพาไปไหน เดินคนเดียวได้ แล้วพ่อก็หันกลับมองตัวผมเองว่า ลูกเขาไม่เห็นทำอะไรได้แบบนี้เลย กินข้าวเขาก็กินเองได้ ซักผ้าก็ซักเองได้ ก็เลนตัดสินใจว่า ยอมให้ลูกอยู่ที่นี่ เป้นโรงเรียนประจำ จะกลับบ้านก็ตอนปิดเทอม ผมก็ได้พัฒนาการเรื่อยๆ จนโต ก็สามารถไเรียนร่วมกับคนปกติได้ เรียมัธยม เรียนมหาวิทยาลัย

ผู้สื่อข่าว หลังจบจากมหาวิทยาลัยก็มีงานทำใช่ไหมครับ

เอกพงษ์ นบสกุล ช่วงเรียนในมหาวิทยาลัย ผมเรียนด้านวิทยุกระจายเสียง และก็วิทยุโทรทัศน์โดยตรง ถ้าถามว่าอุปสรรคในระหว่างเรียนคือไม่ค่อยมี เพราะว่าเราก็เรียนปกติ แต่อุปสรรคในช่วงทีร่เข้าไปเรียนมีมาก คืออาจารย์ในมหาวิทยาลัียบอกว่า ถ้าจะเรียน ก็ขอใ้ห้เปลี่ยนวิชาเรียนไปพวกสังคมหรือภาษาได้ไหม ถ้าเรียนพวกนี้มันลำบาก แต่ผมด้วยใจรักและชอบ แล้วข้อสำคัญคือผมสอบเข้าไปได้ด้วยตัวเอง ผมก็เชยยืนยันว่าไม่เปลี่ยน ขอลองเรียนไปก่อน ถ้าไม่ได้เปลี่ยน แต่ผมมั่นใจว่าผมทำได้ เขาก็เลยใ้หโอกาส เราก็เลยเรียนได้ แต่กว่าจะเข้าใจกันได้ ก็ค่อนข้างนานพอสมควร