คุยกับพนักงานใหม่ซี อาร์ ไอ (1)
  2013-10-18 18:00:45  cri

หลู่ : สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ ยินดีต้อนรับสู่รายการประเด็นวันนี้ วันนี้ผมหลู่เฟิงได้เชิญแขกพิเศษสองคนมาร่วมพูดคุยในรายการ แขกพิเศษของผมทั้งสองคนเป็นคนจีนที่ผูดภาษาไทยได้ดีมาก ท่านผู้ฟังอาจคิดว่าเขาเป็นนักศึกษาเอกวิชาภาษาไทย ความจริงทั้งสองคนก็เคยเป็นนักศึกษาเอกวิชาภาษาไทย แต่ตอนนี้เรียนจบแล้ว วันหลังแขกพิเศษทั้งสองหรืออยากให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นก็ต้องบอกว่า น้องทั้งสองคนจะมาเป็นเพื่อนใหม่ที่คอยให้บริการท่านผู้ฟังทุกวัน เพราะเธอเป็นน้องใหม่ของภาคภาษาไทย ครอบครัวที่อบอุ่นของเรานั่นเอง อยากขอให้น้อง ๆ ทักทายท่านผู้ฟังก่อนครับ

เยี่ยน : สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟังทุกท่าน ดิฉันเยี่ยนจื่อค่ะ

เผิง : สวัสดีค่ะ ดิฉันเผิงเซ่าอ้ายค่ะ

หลู่ : น้องสองคนมาทำงานที่ซี อาร์ ไอครบเดือนแล้ว มีความรู้สึกอะไรพิเศษ ๆ หรือมีความประทับใจอะไรที่จะเล่าให้ฟังไหม

เยี่ยน: ดิฉันรู้สึกว่ารุ่นพี่ทุกคนในภาคภาษาไทยเป็นคนน่ารัก มีน้ำใจ และพวกเราก็ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ ทุกคนตั้งแต่เพิ่งเข้ามาทำงาน ค่ะ

เผิง : สำหรับดิฉันคิดว่า ร้านกาแฟในซี อาร์ ไอขายกาแฟอร่อยและถูกมาก คนที่ทำงานในซี อาร์ ไอส่วนใหญ่เป็นคนอายุน้อย

หลู่ : มองละเอียดจังเลย ได้ข่าวว่าก่อนที่จะเข้ามาทำงานที่ภาคภาษาไทย ได้ผ่านการฝึกอบรมที่เข้มงวดมาก ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าได้ผ่านการฝึกอบรมอะไรบ้างและมีความรู้สึกอย่างไร

เยี่ยน : พวกเราต้องเข้ารับการฝึกอบรมเป็นเวลาเดือนครึ่ง

เผิง : ใช่ค่ะ ประกอบด้วยการฝึกทหารเป็นเวลา 15 วันการฝึกอบรมทางวิชาการเป็นเวลา 12 วัน เราพักอยู่ในสถานที่ฝึกอบรมแห่งหนึ่ง ช่วงฝึกไม่สามารถออกไปไหนได้ ไปเยี่ยมพ่อแม่ก็ไม่ได้ ไปหาแฟนก็ไม่ได้

เยี่ยน:หลังการฝึกอบรมข้างนอก เรายังต้องมาฝึกอบรมด้านเทคนิคที่ซี อาร์ ไอ แถมยังต้องมีการทดสอบร่างกายและทดสอบความรู้อีกรอบ

หลู่ : การทดสอบร่างกายหมายถึงวัดว่า สุขภาพแข็งแรงพอหรือเปล่า

เผิง :ใช่ค่ะ เราได้ทดสอบการวิ่งทน กระโดดไกล ซิทอัพ ช่วงการฝึกอบรมเราต้องวิ่ง 1500 เมตรทุกเช้าและเย็น จนสามารถผ่านการทดสอบร่างกายได้

หลู่ : หมายถึงทุกวันต้องวิ่ง 3000 เมตรหรือ คงเหนื่อมากใช่ไหมครับ

เยี่ยน : เหนื่อยทีเดียว อันที่ลำบากที่สุดยังกะฝึกทหาร นอกจากจะต้องวิ่งทนทุกเช้าและเย็น ยังบังคับให้ฝึกในช่วงแดดจัดในหน้าร้อนซึ่งอากาศร้อนที่สุด

เผิง: เพื่อนร่วมทีมบางคนผอมฝึกไปก็ทนไม่ไหวแล้วเป็นลมกลางแดด แต่พอมาอบรมทางวิชาการเราสบายขึ้นเยอะ เพราะอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา

หลู่: นอกจากฝึกความแข็งแกร่งทางร่างกายแล้ว ทางวิชาการได้เรียนอะไรบ้าง

เผิง : อย่างเช่นการเขียนข่าว เทคโนโลยีของ new-media และยุทธศาสตร์การพัฒนาของซี อาร์ ไอ เป็นต้น

เยี่ยน:นอกจากนี้ยังมีทักษะการสัมภาษณ์ การตัดต่อและการประกอบรายการวิทยุ

หลู่ : ก็สรุปได้ว่า ซี อาร์ ไอได้ทุ่มกำลังทรัพย์และกำลังคนเพื่อพัฒนาบุคลากรคนใหม่ครับ

เยี่ยน: ค่ะ พวกเราได้เรียนรู้มากมายค่ะ

เผิง : ก็คิดว่าดีกว่าที่ดิฉันคิดมาก่อนค่ะ

หลู่ : คิดยังไงจึงมาทำงานที่ซี อาร์ ไอครับ วางแผนไว้ตั้งแต่เด็กหรือเปล่าว่าจะเป็นโฆษกเป็นผู้ดำเนินรายการ

เยี่ยน: สำหรับดิฉัน ดิฉันเรียนภาษาไทยชอบภาษาไทยมาก ชอบงานโฆษก แล้วก็คิดว่า ซี อาร์ ไอเป็นเวทีที่ดีที่จะสามารถทำให้ดิฉันใช้ภาษาไทยได้เต็มที่

เผิง : ส่วนดิฉันก็อยากหางานที่ใช้ภาษาไทยค่ะ เพราะว่าเรียนภาษาไทยมา 7 ปีแล้ว ผู้อาวุโสและรุ่นพี่อยู่ในซี อาร์ ไอใช้ภาษาไทยดีมาก แล้วดิฉันอยากพัฒนาตัวเองที่นี่ คิดว่ามีเวทีที่เปิดโอกาสให้ใช้ความรู้ที่เรียนมา 7 ปีได้อย่างเต็มที่

หลู่ : ฟังน้องอธิบายแล้วก็ทำให้ผมเองนึกถึงตอนที่เข้าซีอาร์ไอ ก็รู้สึกว่า ซีอาร์ไอ เป็นสื่อหลักระดับโลก ใช้ภาษาต่างประเทศมากที่สุดทั้งหมด 61 ภาษากระจายเสียงแพร่ภาพไปทั่วโลก เพื่อบริการผู้ฟังทั่วโลก ทำงานที่นี่ก็ทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจ และรู้สึกหน้าที่การงานของเรามีคุณค่ายิ่ง และทำไมต้องเป็นภาษาไทยล่ะก็เหมือนน้องที่เป็นนักศึกษาเอกไทยมา ความจริงเราก็ศิษย์อาจารย์เดียวกัน ตอนที่เราเรียนภาษาไทยก็รู้สึกว่ามีความรัก ความผูกพันกับประเทศไทยตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย จนถึงทุกวันนี้ก็ 10 ปีแล้ว ส่วนผมเองก็รู้สึกผมรักเมืองไทยไม่แพ้คนไทยด้วยซ้ำ ทำงานที่นี่ก็ทำงานเต็มที่เลย เพื่อเป็นสื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย หรือพูดว่า ทำอะไรเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ ทำให้คนไทยกับคนจีนเข้าใจกันดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เป็นที่กำลังใจที่ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง ทำงานอย่างมีกระตือรือร้นมากขึ้น

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040