นับแต่วันที่ 1 มกราคม ปี 2014 เป็นต้นไป ผู้ชมรายการสถานีโทรทัศน์จีนผ่านดาวเทียมไม่ต้องจำทนปวดจิตเหนื่อยใจกับรายการโฆษณาขายสินค้าทางโทรทัศน์ที่ฉายวนพูดเวียนซ้ำไปมาอีกต่อไปแล้ว เพราะโฆษกหน่วยงานควบคุมสื่อจีนได้ออกมาแถลงนโยบายคุมเข้มอีกขั้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ห้ามสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทุกช่องมีการฉายโฆษณาขายสินค้าในช่วง 18.00-24.00 น.ของทุกวัน ส่วนในช่วงเวลานอกเหนือจากนี้จะฉายได้เพียงชั่วโมงละหนึ่งครั้ง ความยาวครั้งละไม่เกิน 3 นาที โดยแต่ละวันจะฉายโฆษณาสินค้าตัวเดียวกันหรือที่มีเนื้อหาเดียวกันได้ไม่เกิน 3 ครั้ง

และเพราะรายการโฆษณาขายสินค้าเหล่านี้ มักจะใช้วิธีนำเสนอที่กระตุ้นปลุกเร้าผู้ชม จึงมีรายละเอียดที่ควบคุมถึงรูปแบบการนำเสนอด้วยว่า ไม่สามารถใช้พิธีกรทำการประชาสัมพันธ์, ไม่สามารถใช้เสียงประกอบหรือน้ำเสียงและท่าทางที่ดูเกินเลย, ไม่สามารถใช้รูปแบบการรายงานข่าว การสัมภาษณ์หรือนำเนื้อหาข้อมูลข่าวมาประกอบการประชาสัมพันธ์สินค้า รวมถึงไม่สามารถใช้คำโฆษณา อาทิ "สลัดไขมัน" "หุ่นสวยได้มาตรฐาน" หรือภาพการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างกับสินค้าลดน้ำหนักหรือเสริมทรวงอก และต้องขึ้นตัวหนังสือกำกับว่า "โฆษณา" ทางมุมขวาบนด้วย เป็นต้น

แม้ว่าหน่วยงานจีนจะระบุว่าได้มีการควบคุมและมีการออกหนังสือสั่งหยุดฉายไปหลายครั้ง แต่ก็ยังคงมีโฆษณาที่เนื้อหาเกินจริงหรือการฉายซ้ำไปมายาวนานแฝงอยู่ในรายการบางช่องสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมของจีน ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสื่อโทรทัศน์และที่สำคัญคือสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประชาชน

ของดีเป็นเลิศ! ลดแล้วลดอีก! ซื้อตอนนี้สมนาคุณเพียบ!

ผู้ชมโทรทัศน์ไม่น้อยรายต้องตกเป็นเหยื่อกับคำและภาพโฆษณาที่ดีเลิศเกินจริง

โดยเมื่อเร็วๆนี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของจีนร่วมกับ CMMR（China Mainland Marketing Research Co., Ltd.）องค์กรเชี่ยวชาญการทำสำรวจของจีน ทำการรวบรวมข้อมูลถึงสภาพการณ์ซื้อสินค้าทางโทรทัศน์ของผู้บริโภค ผลการปรากฏว่า ร้อยละ 14.3 ของผู้ร่วมทำสำรวจระบุว่าเคยมีประสบการณ์ซื้อสินค้าทางโทรทัศน์ ซึ่งเกือบครึ่งเจอกับปัญหาถูกหลอกลวง และมีเพียงร้อยละ 8.3 ที่ทำการเรียกร้องสิทธิ โดยร้อยละ 5 รู้สึกพึงพอใจกับผลจากการร้องเรียน อีกร้อยละ 75.6 ระบุว่าไม่ได้รับการแยแส อีกร้อยละ 12.5 ระบุว่าต้องผจญกับความยากลำบากมากมายกว่าจะลดทอนความเสียหายเอาคืนมาได้ส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ การทำสำรวจดังกล่าวได้ทำสำรวจทั่วทั้งประเทศจีน ทั้งในระดับเมืองและชนบท จำนวนทั้งสิ้น 1,783 ตัวอย่าง โดยในกลุ่มร้อยละ 14.3 ที่มีประสบการณ์ซื้อสินค้าทางโทรทัศน์นั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีอายุ 40-49 ปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.6 ส่วนผู้ที่เคยซื้อแล้วแต่ต้องประสบกับการถูกหลอกลวงที่เป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 45 นั้น ส่วนใหญ่กว่าร้อยละเก้าสิบเลือกที่จะไม่ร้องเรียน โดยร้อยละ 66.7 ให้เหตุผลว่าเพราะรู้สึกว่ายุ่งยากถือซะว่าเป็นบทเรียน และอีกร้อยละ 24.2 คิดว่าทำไปก็เท่านั้นคงไม่ได้ผลอะไร

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府