อินทนิล อินไชน่า ตอน หมอกควันในปักกิ่ง
  2013-11-04 18:14:22  cri
กลุ่มเพื่อสาวชาวจีนของดิฉัน หมั่นมาชวนไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์ที่ผ่านมา ( 2 พฤศจิกายน 2556) อากาศในปักกิ่งไม่ค่อยน่าพิศมัย หมอกควันพิษหนา ฟ้าครึ้มตลอดทั้งวัน ดิฉันทำท่าจะปฏิเสธ เพื่อน ๆ เหมือนรู้ใจ เธอบอกไม่ต้องกลัว เธอเตรียมหน้ากากเอาไว้แล้ว ดิฉันแซวว่า หน้ากากที่มีช่องระบายอากาศ 2 ข้างที่ใส่แล้วเหมือนหมู น่ะเหรอ ไม่เอาหรอก เพราะลำพังตัวดิฉันก็เหมือนหมูเข้าไปทุกวันขืนใส่หน้ากากหมูเข้าไป เดี๋ยวผู้คนจะสงสัยหมูจากคอกไหน หลุดมาเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้ เธอหัวเราะ แล้วบอกว่าสบายใจได้ เพราะหน้ากากที่เธอเตรียมให้นี้ เป็นผ้าปิดจมูกที่มีช่องระบายอากาศข้างเดียว เธอใช้มาได้เกือบสัปดาห์ รับรองว่าไม่อึดอัด หายใจสบาย แถมเวลาเวียนหัวต้องการดมยาดม ก็ไม่ต้องถอดออกมา จ่อยาดมที่ช่องระบายอากาศเท่านั้นพอ

ทันทีที่เจอกันที่ช่องจำหน่ายตั๋วหน้าวัดลามะ ที่คนจีนเรียกว่า ยงเหอกง เธอรีบยื่นหน้ากากป้องกันมลพิษที่ว่าให้ดิฉัน คะยั้นคะยอให้ใช้เลย เพราะเธอสองคนก็สวมหน้ากากแล้ว ดิฉันรีบทำตามคำแนะนำ สังเกตคนรอบข้างจำนวนไม่น้อยก็ใช้หน้ากากกัน วันนี้แม้หมอกควันพิษลงจัดแต่ก็มีคนมาวัดเยอะ ต้นแป๊ะก๊วยขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่ซ้ายขวาของทางเข้าวัน ยามนี้ใบมีสีเหลืองอร่าม ลูกที่สุกขนาดเป้งกว่าหัวแม่มือเล็กน้อยมีเนื้อสีเหลือง ๆหุ้มอยู่ เปลือกนอกสุกงอมจนนิ่มสามารถแกะดูเปลือกสีขว ๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่เจ้าเนื้อที่หุ้มเม็ดอยู่นี้ กลิ่นทะแม่ง ๆ ไม่หอม แหงนดูบนต้น ยังมีลูกเรียงราย เสียดายไม่ได้อยู่แถวนั้น ไม่งั้นจะไปเก็บมาทุกวัน ๆ แต่ความคิดนี้ต้องชะงัก จากค่าผ่านประตุคนละ 25 หยวน(125 บาท) ขืนจะเข้ามาเพื่อเก็บลูกแป๊ะก๊วย ฮย่างเดียวคงไม่คุ้ม เข้าข่ายขี่ช้างจับตั๊กแตนเปล่า ๆ ผ่านจากลานแป๊ะก๊วย เข้าสู่ลานกว้างด้านในเป็นบริเวณสำหรับการจุดธูปสักการะ คนจีนนิยมใช้ธูปดอกใหญ่ ๆ แต่พวกเราเตรียมธูปดอกจิ๋ว ๆ ไป ไม่ต้องการสร้างมลภาวะในอากาศให้หนักไปกว่านี้ ครั้นจะไม่ใช้ธูปเสียเลย ก็เกรงจะขาดซึ่งความรู้สึกขลังอย่างที่ตั้งใจ สังเกตูดูว่าที่วัดนี้ ผู้คนไม่ได้จุดเทียน เพราะไม่มีสถานที่เตรียมไว้ให้ เห็นผู้ที่เตรียมเทียนไป จะพากันนำไปวางหน้าพระพุทธรูปโดยไม่ต้องจุด นอกจากสถานที่จุดและเผาธูปด้านหน้าสุดนี้แล้ว ด้านในบริเวณหน้าตำหนักแต่ละตำหนักยังมีที่จุดธูปไว้ให้ แต่สังเกตดูว่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยจุดกันอีก เพียงนำธูปไปวางในถาดหน้าพระพุทธรูปที่เขาเตรียมไว้ให้เท่านั้น

ออกจากวัดลามะ เราอาศัยรถเมล์ ทัศนวิสัยไม่ดีเอาซะเลย มองเห็นชัด ๆ ได้ไม่เกิน 20 เมตร เพราะฤทธิ์เดชของหมอกควัน เราฝากท้องมื้อเที่ยงกับหมาล่าทั่ง เจ้าดังของปักกิ่ง อยู่ใกล้ ๆ สะพานเหอผิง ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ แต่ลูกค้าแน่น ดิฉันเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง ติดใจ ไปใหม่ก็ไม่ผิดหวัง เดินเข้าไปในร้านขวามือจะเป็นตู้ผักสารพัด พร้อมเต้าหู้ เนื้อสัตว์ที่เขาเสียบไม้ไว้ จัดการหยิบตะแกรงพาสติกจากที่วาง มาเลือกของที่เราชอบ เราเลือกกันหลายอย่างประมาณ 20ไม้ หันไปสั่งเครื่องดื่ม น้ำมะพร้าว 3 กระป๋อง แล้วให้เขาคิดสตางค์ เบ็ดเสร็จ 101 หยวน ทางร้านจัดการส่งของที่เราสั่งเข้าครัว เพื่อจัดการผัดและย่างบนกะทะแบนขนาดใหญ่ใส่น้ำมันลงไปพอควร เมื่อของทั้งหลายสุกก็จัดการใส่ถาดลึกมาสิร์ฟ พวกข้าวโพดย่าง เต้าหู้ย่าง เห็ดเข็มทองย่าง ผักย่างแยกมาต่างหาก ที่ขาดไม่ได้คือน้ำจิ้มสุดแซ่บซ่า เวลาของความหรรษามาถึงนั่งคุยกันไปกินกันไป ประเด็นสำคัญวันนั้นเป็นเรื่องหมอกควันมลพิษ เพื่อนคนจีนแนะให้ใช้หน้ากากกันมลพิษทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพราะหากสภาพอากาศยังคงเป็นเช่นนี้ ระยะยาวอาจเป็นมะเร็งได้ พร้อมกับพูดถึงที่มาของมลพิษจากข้อมูลเขาบอกว่า ควันพิษในกรุงปักกิ่ง 50 เปอร์เซ็นต์มาจากยวดยาน 8 เปอร์เซ็นต์มาจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่น่าตกใจคือ 13 เปอร์เซ็นต์มากจากการปรุงอาหาร ยิ่งอาหารประเภทผัดและทอด ย่างยิ่งมีโอกาสก่อมลพิษมากยิ่งขึ้น เพราะโดยส่วนใหญ่ เราจะใส่น้ำมันลงไปในกะทะที่ร้อน ยิ่งน้ำมันในกะทะร้อนจัด อุณหภูมิยิ่งสูง ยิ่งก่อให้เกิดควันมากเท่านั้น เพื่อนบางคนก็ยังไม่เชื่อว่าการปรุงอาหารมันจะทำให้เกิดมลพิษได้ แต่จากข้อมูลที่ว่า ในปักกิ่งมีผู้อยู่อาศัยที่เป็นประชากรประจำและประชากรแฝงประมาณ 20 ล้านคน แล้วคนจีนนิยมรับประทานอาหารประเภท ทอด ผัด ย่างมากสังเกตุได้จากเวลาเขาซื้อน้ำมันพืชจะซื้อเป็นแกลลอนขนาด 3-5 ลิตรกัน ที่สำคัญซื้อทีละหลายแกลลอน เคยถามว่าซื้อไปขายหรือไปกิน เขาว่าซื้อไปกินเอง ประเด็นมลพิษจากการปรุงอาหารจึงไม่ควรทิ้งไป เมืองใหญ่อย่างปักกิ่งที่ครัวเรือนอาศัยอยู่ในคอนโดระฟ้า ห้องครัวแต่ละบ้านมีเครื่องดูดอากาศเวลาปรุงอาหาร แม้ควันจากการปรุงจะไม่ฟุ้งอยู่ในครัวในบ้าน แต่เจ้ากลิ่นควันเหล่านี้ในท้ายที่สุดมันไปไหน น่าคิดอยู่เหมือนกัน

อิ่มแปล้จากหมาล่าทั่ง พวกเรายังอยากตระเวนดูสภาพอากาศ ก็เลยขึ้นรถเมล์ คนแน่นเอี๊ยด นึกในใจ เออ คนไม่ค่อยกลัวมลพิษแฮะ สองข้างทางเต็มไปด้วยหมอกควัน จุดหมายปลายทางของเราคือยั่นซา เอ้าท์เล็ทขนาดยักษ์ ถึงที่นั่นบ่ายสามกว่า ๆ แต่อากาศมืดครึ้มเหมือนใกล้ค่ำ หมอกควันจัดซะจนเราต้องรีบวิ่งเข้าอาคาร

ออกจากยั่นซา คราวนี้มืดจริง ๆ เราสามคนนั่งแท็กซี่ คนขับอารมณ์ดีแต่ก็บ่นให้ฟังว่า วันนี้ทัศนวิสัยไม่ค่อยดีทั้งวัน ปีนี้เกิดสภาพอากาศอย่างนี้บ่อยครั้งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา หวังว่าพรุ่งนี้จะดีขึ้น เราก็เออออ หวังเช่นนั้นเหมือนกัน

เราขอให้แท็กซี่มาส่งที่สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด แล้วต่างคนต่างแยกย้าย ก่อนจากกันเพื่อนยังย้ำนักย้ำหนาให้หาซื้อหน้ากากป้องกันมลพิษมาใช้ จะได้มีสุขภาพดีอยู่นาน ๆ ดิฉันรับปาก ไม่อยากเป็นแม้แต่มะเร็งในอารมณ์!

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040