วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออกครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงของบรูไน และกล่าวคำปราศรัยในที่ประชุม โดยใช้ตะเกียบมาอุปมาว่า ประชาชนของหลายประเทศอาเซียนนิยมใช้ตะเกียบเป็นอุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร และรู้ว่า ตะเกียบ 1 อันจะคืบอาหารยาก ตะเกียบคู่หนึ่งจะคืบอาหารง่ายและสะดวก แต่ตะเกียบหลายอันที่มัดร่วมกันจะหักยาก
หนังสือพิมพ์ จิงจี้จึเป้า ของฮ่องกงออกบทความชี้ให้เห็นว่า นายหลี่ เค่อเฉียงอ้างอิง "ทฤษฏีตะเกียบ" เพื่อเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเพิ่มพูนความไว้วางใจต่อกันในด้านความปลอดภัย ร่วมกันรักษาสันติืภาพและความมั่นคงของภูมิภาค นี่เป็นทัศนะใหม่ในด้านความมั่นคงของกรุงปักกิ่ง มีส่วนช่วยแก้ปัญหาด้วยการเจรจาอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา
หนังสือพิมพ์ "ยุโรปรายวัน" ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับภาษาจีนของฝรั่งเศสออกบทนำระบุ ในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกเอเชีย จีนให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศรอบข้างก็เป็นโยบายด้านการต่างประเทศที่สำคัญของจีน ปีหลังๆ นี้ พร้อมๆ กับสหรัฐฯ ประกาศยุืทธศาสตร์กลับสู่เอเชีย ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเลวร้ายลงเนื่องจากปัญหาเกาะเตี้ยวอวี๋ และปัญหาทะเลจีนใต้ก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียนเกิดความสับสนวุ่นวายบ้าง
ภูิมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นประเด็นสำคัญในนโยบายการต่างประเทศของจีน การจัดการความสัมพันธ์กับประเทศภูมิภาคนี้ให้เป็นไปด้วยดี เป็นความต้องการของจีนในการสร้างสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่มั่นคง อีกทั้งยังเป็นฐานส่วนหนึ่งที่หนุนให้จีนแสดงบทบาทมากยิ่งขึ้นในโลก
การเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของนายสี จิ้นผิงและนายหลี่ เค่อเฉียงครั้งนี้ เป็นสาระหาสำคัญสำหรับนโยบายการต่างประเทศในปี 2013 ของจีน ที่สะท้อนให้เห็นทัศนะทางการทูตของจีนที่ว่า "ประเทศใหญ่สำคัญที่สุด ประเทศรอบข้างมีความสำคัญอันดับหนึ่ง ประเทศกำลังพัฒนาเป็นฐาน"
หนังสือพิมพ์ฉบับภาษาจีน "ซิงเสียนเยอะเป้า" ของไทยออกบทนำชี้ให้เห็นว่า การที่เศรษฐกิจจีนเจริญรุ่งเรืองเข้มแข็งยิ่งขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ในอาเซียนล้วนยินดีที่จะร่วมการพัฒนากับจีน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน แต่ในด้านระบอบการเมือง แต่ละประเทศจะมีการเลือกตั้งกันเอง อาเซียนจะไม่ถูกชี้นำโดยสหรัฐฯ และจะไม่ถูกชี้นำโดยจีน แต่สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ คือ จนถึงปัจจุบัน จีนยังไม่ได้มองว่า จีนเป็นผู็นำของโลก ซึ่งตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ ที่มักจะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้นำโลกที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้
(Yim/Lin)