ถัดจากการเยี่ยมชมฐานการผลิตและส่งออกอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ระดับประเทศ (Software Valley) ที่เขตอี่ว์ฮวาไถของเมืองนานกิง หรือ "หนานจิง南京" ในวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา บรรดาคณะทูตประจำกรุงปักกิ่งจากกว่า 20 ประเทศ ยังได้เยี่ยมชมต่อถึงความเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ทันสมัยและมีศักยภาพทางเศรษฐกิจของหนานจิง ในส่วนของการพัฒนาด้านโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจเจียงหนิง และการพัฒนาระบบขนส่งรถไฟฟ้าใต้ดินของหนานจิงเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม
โดยอัครราชทูตอุรีรัชต์ รัตนพฤกษ์ ระบุถึงการมาเยือนหนานจิง เมืองที่ผสมผสานความเก่าใหม่อย่างลงตัวเป็นครั้งแรกนี้ว่า นับเป็นโอกาสดีทำให้ได้มารู้จักประเทศที่ประจำอยู่หลากหลายแง่มุมมากขึ้น ทำให้ได้เห็นโฉมหน้าของการเป็นศูนย์กลางซอฟต์แวร์ที่เชิญชวนให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเมืองหลวงเก่าหนานจิง ซึ่งล้วนมีศักยภาพในการแข่งขันสูง มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะนำไปสู่การร่วมมือระหว่างไทยจีนในอนาคต
ทั้งนี้ เขตพัฒนาเศรษฐกิจเจียงหนิง ตั้งอยู่ตอนใต้ของเมืองหนานจิง ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดเชื่อมพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจฉางเจียง จึงเป็นเขตศูนย์กลางการพัฒนาที่สำคัญของหนานจิง มีความสะดวกในการคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำอย่างยิ่ง ปี 2010 ได้รับการอนุมัติให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีระดับประเทศ ปัจจุบันเป็นเขตพัฒนาตัวอย่างที่เปิดสู่ภายนอกของหนานจิง เป็นเขตระดมเงินทุนต่างชาติและศูนย์รวมอุตสาหกรรมไฮเทค
การจัดแสดงโครงงานตัวอย่างด้านพลังงานใหม่ "รถยนต์ไฟฟ้า"
อีกหนึ่งการผลักดันความเจริญก้าวหน้าของหนานจิง
โดยสถานีเปลี่ยนและชาร์ตไฟต้นแบบแห่งแรกของหนานจิงได้เริ่มให้บริการกับรถประจำทางพลังงานไฟฟ้าสาย 19 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ปี 2012 โดยประกอบด้วย 1 จุดเปลี่ยน และ 4 จุดชาร์ตไฟ ซึ่งเวลาในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับรถหนึ่งคันอยู่ที่ประมาณ 6-8 นาที สามารถให้บริการได้ราว 72 ครั้งต่อวัน รองรับความต้องการสำหรับรถยนต์หรือรถประจำทางไฟฟ้าบริสุทธิ์ได้มากสุดวันละ 30 คัน
การเยี่ยมชมงานด้านโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะของบริษัท NARI Group Corporation
ที่ประกอบกิจการด้านอนุรักษ์น้ำและไฟฟ้าพลังน้ำ เทคโนโลยีควบคุมการจราจรรถไฟอัตโนมัติ
และระบบไฟฟ้าอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดของจีน
ส่วนงานพัฒนาด้านรถไฟฟ้าใต้ดินของหนานจิง เริ่มดำเนินการวางแผนตั้งแต่ปี 1984 แต่ต้องเผชิญกับการปรับแก้ต่างๆ หลายต่อหลายรอบ และมาเปิดให้บริการเส้นทางเดินรถสาย 1 ได้เมื่อเดือนกันยายน ปี 2005 กลายเป็นเมืองลำดับที่ 136 ของโลก และลำดับที่ 6 ของประเทศ ที่มีให้บริการรถไฟใต้ดินต่อจากปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเส้นทางสาย 3, 4, 10, 11, 12 และสายสนามบิน โดยตั้งเป้าว่าจะบรรลุโครงข่ายรถไฟใต้ดิน 25 เส้นทางให้บริการ ความยาวทั้งสิ้น 775 กิโลเมตรได้ในปี 2030
สถานีรถไฟใต้ดินจูเจียงลู่ (珠江路地铁站) ได้รับสมญานามว่า "สถานีลูกกวาด" เนื่องจากเมื่อปี 2008 มีพ่อแม่คู่หนึ่งพาลูกที่เจ็บป่วยเดินทางจากหม่าอันซาน มาเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเด็กเล็กซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีนี้ ระหว่างการเดินทางกลับ ปรากฏว่าลูกน้อยร้องงอแงอยากจะกินลูกอมให้ได้แต่ทั้งสองไม่มีจะให้ ขณะที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี พนักงานประจำสถานีคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ได้ยื่นลูกกวาด ที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้ลูกของตน กับเด็กน้อยไปแทน พร้อมย้ำว่าให้เป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่และรีบหายป่วยไวๆ
ความพิเศษของสถานี "ลูกกวาด" จูเจียงลู่
ที่มีธรรมเนียมแจกลูกกวาดให้กับเด็กๆ ที่มาใช้บริการยังสถานีนี้
นับจากนั้น บรรดาพนักงานประจำสถานีต่างพร้อมใจพกลูกกวาดติดกระเป๋าตนไว้ ทำให้ผู้มาใช้บริการต่างประทับใจกับมิตรภาพและความเป็นกันเองของคนทำงาน และเมื่อเรื่องได้รายงานไปถึงผู้บริหาร ก็ได้รับการอนุมัติให้โควตาจำนวนลูกกวาดหรืออมยิ้ม สำหรับพนักงานประจำสถานีเป็นผู้แจกจ่ายให้แก่เด็กๆ ที่มาใช้บริการได้ทุกวัน ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมาได้แจกไปแล้วกว่า 90,000 ชิ้น
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府