ปัญหารถติดเป็นปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตราบใดที่ผู้คนยังนิยมซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น แต่พื้นที่ถนนยังคงกว้างเท่าเดิม ปัญหารถติดก็จะยังคงเป็นปัญหาโลกแตกที่แก้ไม่ตกต่อไป หลายเมืองใหญ่มีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหานี้ โดยต่างก็ออกกฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น ออกกฎบังคับช่วงเวลาขับรถเข้ามาในเขตใจกลางเมือง หรือเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มสำหรับรถยนต์ที่วิ่งเข้าตัวเมืองในชั่วโมงเร่งด่วน เป็นต้น
สำหรับปักกิ่งก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ประสบปัญหาปริมาณรถบนท้องถนนที่แออัดคับคั่ง และยังเรื่องมลพิษทางอากาศที่ส่วนหนึ่งมาจากไอเสียของรถยนต์อีก ทำให้มีการออกกฎข้อบังคับเลขท้ายป้ายทะเบียนรถที่จะออกวิ่งได้ในแต่ละวัน เพื่อควบคุมจำนวนรถยนต์บนท้องถนน รวมถึงจำกัดโควตาป้ายทะเบียนรถปักกิ่งใหม่ ที่จะออกเดือนละครั้งเป็นสองเดือนครั้ง ทำให้การจะมีรถส่วนตัวขับเป็นอีกเรื่องที่ยากไม่ใช่เล่นของคนกรุง
ทั้งนี้ เพราะตามกฎข้อบังคับควบคุมปริมาณรถยนต์ในปักกิ่งฉบับใหม่ ระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปี 2014 เป็นต้นไป ถึงปี 2017 การออกรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้หมายเลขทะเบียนรถของปักกิ่ง จะปรับเปลี่ยนเป็นทุกวันที่ 26 ของเดือนคู่ ทำให้จำนวนรถป้ายทะเบียนที่ออกใหม่ในแต่ละรอบปีจะลดจาก 240,000 เหลือเป็น 150,000 เท่านั้น
ล่าสุดมีการส่งต่อข้อความเป็นที่ฮือฮาในโลกสังคมออนไลน์จีนว่า เจอคนขับแท๊กซี่นายหนึ่ง เป็นชาวปักกิ่ง เกิดปี 1983 ทำงานประจำเป็นหนุ่มออฟฟิศที่หวังอยากจะซื้อรถยนต์มาขับบ้างนานแล้ว แต่ติดที่ว่ายังขอสิทธิ์มีเลขป้ายทะเบียนรถไม่ได้สักที จึงหาทางออกด้วยการไปเช่ารถแท๊กซี่ใหม่มาขับ จ่ายค่าเช่าเดือนละ 4,700 หยวน และอาศัยช่วงไปกลับที่ทำงานในแต่ละวัน รับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางผ่าน 4-5 คน ได้เงินราว 120 หยวนต่อวัน ดีกว่าไปเช่ารถทั่วไป เพราะไม่ต้องถูกจำกัดวันขับด้วย
ทั้งนี้ สื่อจีนได้ไปสอบถามคนวงในอย่างคนขับแท๊กซี่อาชีพและบรรดาเจ้าของอู่แท๊กซี่ต่างๆ อธิบายว่า การขับแท๊กซี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านการสอบการอบรมเช่นกัน จึงจะได้ใบอนุญาตประกอบอาชีพ และอู่แท๊กซี่จึงจะตกลงเซ็นสัญญาด้วย ที่สำคัญคือ การขับให้ได้เงินไม่ง่ายอย่างที่คิด ไม่อย่างนั้นคนขับแท๊กซี่อาชีพทั้งหลายคงรวยกันไปหมด ไม่ต้องมากลุ้มกับเรื่องจ่ายค่าเช่ากันอยู่
เหมือนอย่างคนขับรถแท๊กซี่อาชีพแซ่หลี่นายหนึ่งเล่าประสบการณ์ของตนให้ฟังว่า วันนึงออกขับรถกว่าสิบชั่วโมง รายรับอยู่ที่ราว 450 หยวนต่อวัน พอหักค่าเช่าค่าน้ำมันแล้วจะเหลือเพียงร้อยกว่าหยวนเท่านั้น เพราะฉะนั้นขับแค่ช่วงไม่กี่ชั่วโมงจะได้เงิน? ออกจะเหลือเชื่อเกินจริงไป
นอกจากนี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการออกมาตรการประเมินผลและติดตามกำกับดูแลความรับผิดชอบของกิจการรถแท๊กซี่กรุงปักกิ่ง ฉบับทดลอง ซึ่งมีเนื้อหาระบุถึงการเพิ่มความเข้มงวดกับอู่และรถแท๊กซี่ในเรื่องอัตราการออกวิ่ง การโทรเรียกใช้บริการ และการร้องเรียนไว้อย่างชัดเจน อาทิ อัตราการออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารทั่วเมืองในแต่ละวันจำต้องสูงกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป และในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนแท๊กซี่แต่ละคันไม่สามารถหยุดจอดนานเกินกว่า 40 นาที เป็นต้น
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายแรงงานของจีน จึงแสดงความเห็นว่าเรื่องเล่าดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือนัก และที่สำคัญยังเป็นทางออกที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นการทำลายผลประโยชน์ส่วนรวมอีกด้วย
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府