เมื่อวันที่ 17 มีนาคมปีที่แล้ว นายหลี่ เค่อเฉียง หลังเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ ระบุในที่ประชุมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทั้งจีนและต่างประเทศครั้งแรกว่า รัฐบาลชุดใหม่จะมุ่งปรับอำนาจหน้าที่ของรัฐ นั่นก็คือ การกระจายอำนาจ โดยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของการปฏิรูป
จากนั้นมา ได้เริ่มปฏิรูประบบการพิจารณาอนุมัติโดยฝ่ายบริหารรอบใหม่ โดยช่วงเวลา 1 เดือนกว่าก็ได้ยกเลิกหรือกระจายอำนาจพิจารณาอนุมัติโดยฝ่ายบริหารจำนวน 133 รายการ ซึ่งส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในแวดวงเศรษฐกิจ ศ.ซ่ง ซื่อหมิง สถาบันศึกษาการปกครองของจีน (Chinese Academy of Governance) ระบุว่า การยกเลิกและกระจายอำนาจพิจารณาอนุมัติดังกล่าว ซึ่งส่วนมากเกี่ยวข้องกับธุรกรรมเศรษฐกิจ จะกระตุ้นศักยภาพของการตลาดโดยตรงหรือโดยอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งศักยภาพของทุนเอกชน
ต่อจากนั้นจนถึงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ คณะรัฐมนตรีจีนได้ยกเลิกและกระจายอำนาจพิจารณาอนุมัติโดยฝ่ายบริหารรวม 362 รายการ
มาตรการดังกล่าวได้สร้างพลังชีวิตให้กับภาคการตลาด สถิติจากคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่า ช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายนปี 2013 จำนวนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ในจำนวนดังกล่าว ผู้ประกอบการภาคเอกชนและรายบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 กระตุ้นให้การลงทุนภาคเอกชนเติบโตในอัตราประมาณร้อยละ 23 ซึ่งเร็วกว่าอัตราเติบโตของการลงทุนภาครัฐ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา การกระจายอำนาจเพื่อปรับอำนาจหน้าที่ของรัฐ กระตุ้นศักยภาพของการตลาด อุปสงค์ และการพัฒนา รวมถึงการยกกำลังการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น ได้กลายเป็นความรับรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการปฏิรูป
(YIM/LING)