ตั้งแต่ต้นปีนี้ เศรษฐกิจจีนชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจีนจึงใช้นโยบายควบคุมเศรษฐกิจเพิ่มอีกหลายรูปแบบ ทำให้เศรษฐกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น และการปฏิรูประบบเศรษฐกิจก็ประสบผลคืบหน้าบ้าง
สัปดาห์หน้า สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนจะรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของครึ่งปีแรกนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจะไม่ต่ำกว่า 7.5% ซึ่งอัตราเติบโตในไตรมาสแรกจะเป็น7.4 % และรัฐบาลจีนก็กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งปีอยู่ที่ 7.5%
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า รัฐบาลจะควบคุมเศรษฐกิจด้วยรูปแบบภาพรวมและรูปแบบที่มีทิศทางชัดเจน
กล่าวคือ การควบคุมแบบภาพรวมจะพิจารณาศักยภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสภาพแท้จริงในปัจจุบัน กำหนดความเร็วการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ไม่ใช้มาตรการกระตุ้นชั่วคราว ในขณะที่รักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ก็ไม่ทำให้โอกาสการมีงานทำลดน้อยลงอย่างมาก และการเติบโตของซีพีไอหรือดัชนีราคาผู้บริโภคจะไม่ทำให้สภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
ส่วนการควบคุมแบบมีทิศทางชัดเจน หมายถึง เมื่อพิจารณาสภาพในปัจุบันและอนาคตแล้ว ใช้มาตรการปรับปรุงในบางจุด เพื่อกระตุ้นความต้องการของตลาด เพิ่มการสนองผลิตภัณฑ์สาธารณะ สนับสนุนการพัฒนาของอุตสาหกรรมการผลิต
เมื่อปี 2010 เศรษฐกิจจีนขยับขึ้นครองอันดับ 2 ของโลก ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อยๆ ลดลงจากอัตรากว่า 10% มาเป็น 7.5 % ซึ่งนับว่าเป็นความเร็วการเติบโตที่เหมาะสม
(Yim/Lin)