6. เวลารับประทานอาหาร เคี้ยว 30 ครั้งก่อนกลืน
ผู้ที่กินข้าวเร็ว มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารสูงกว่าผู้ที่กินข้าวช้า เนื่องจากน้ำลายมีบทบาทฆ่าเชื้อ สามารถฆ่าเชื้อ AFT ที่จะก่อให้เป็นมะเร็งตับให้ตายภายใน 30 วินาที ดังนั้น ถ้ากัดครั้งหนึ่งใช้เวลา 1 วินาที จึงควรเคี้ยว30 ครั้งก่อนกลืนอาหาร เพื่อป้องกันมะเร็ง อีกทั้งยังสามารถลดความกดดันมรการทำงานของระบบย่อยอาหารได้ด้วย
7. เดินออกกำลังวันละ 1 ชั่วโมง
แต่ละวันเดินเล่น 30 นาทีหลังอาหาร หรือแต่ละสัปดาห์เดินเล่น 4 ชั่วโมง จะลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนได้ครึ่งหนึ่ง สถาบันสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด(Harvard University) ติดตามวิจัย 7 หมื่นคน พบว่า แต่ละวัน ถ้าเดินทาง 1 ชั่วโมง จะลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ครึ่งหนึ่ง การเดินเล่นจะทำให้เหงื่อออก ซึ่งจะช่วยขจัดสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งออกจากร่างกายได้
8. แต่ละวันตากแดด 15 นาที
คงเป็นวิธีการป้องกันมะเร็งที่ประหยัดเงินมากที่สุด ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงตากแดด เพิ่มวิตามิน D ภายในร่างกายให้มากขึ้น ก็ป้องกันมะเร็งได้เลย การขาดวิตามิน D จะทำให้เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ และมะเร็งกระเพาะอาหาร
9. ดื่มไวน์ขณะรับประทานเนื้อ
ในเปลือกองุ่นมีสารชนิดหนึ่งที่สามารถป้องกันมะเร็งระบบย่อยอาหาร การดื่มไวน์ขณะรับประทานเนื้อจะช่วยป้องกันสารพิษในเนื้อสัตว์ถูกดูดซึมเข้าสู่กระเพาะอาหาร สมาคมวิจัยมะเร็งของสหรัฐฯ เสนอว่า แต่ละสัปดาห์ ควรรับประทานเนื้อหมู เนื้อวัวหรือเนื้อแพะเพียงประมาณ 500 กรัม ถ้ารับประทานเนื้อสัตว์มากเกินควร จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้
10 . แต่ละวันนอน 7 ชั่วโมง
สมาคมวิจัยมะเร็งของสหรัฐฯ พบว่า ผู้หญิงที่แต่ละคืนนอนไม่ถึง 7 ชั่วโมง มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงถึง 47% เพราะว่าเวลานอนหลับ ร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน(melatonin) ซึ่งมีบทบาทยับยั้งการเกิดฮอร์โมนเพศหญิง จึงป้องกันมะเร็งเต้านมได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรเตรียมเข้านอนก่อน 22.30 น. เข้านอนก่อน 23.00 น. ตื่นนอนเวลา 06.00-07.00 น. ในกลางวัน 13.00 น. เป็นเวลาที่ง่วงนอนที่สุด ถ้าสามารถหลับซักพัก จะเพิ่มภูมิต้านทานให้สูงขึ้น ป้องกันมะเร็งได้
นอกจากวิธีการป้องกันมะเร็งดังกล่าวแล้ว ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ยังพบว่า เซลล์มะเร็งมีช่วงพักตัว ช่วงพักยิ่งนาน ผู้ป่วยยิ่งมีอัตรารอดสูง ปัจจุบัน แวดวงการแพทย์พยายามแสวงหาวิธีการขยายเวลาการพักตัวของเซลล์มะเร็ง รวมถึงการใช้ยาและการรับประทานอาหาร โดยแนะนำอาหารบางอย่างที่สามารถช่วยให้เซลล์มะเร็งหลับพักได้นาน รวมถึง กะหรี่ พริก ขิง ชาเขียว ถั่วเหลือง มะเขือเทศ องุ่น กระเทียม และบร็อคโคลี่ broccoli
ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นมีทฤษฎีว่า เซลล์มะเร็งกลัวอุณหภูมิสูง เมื่อร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่า 35 องศา เซลล์มะเร็งจะคึกคักมากและขยายแพร่กระจายได้มากที่สุด แต่เมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 39.6 องศา เซลล์มะเร็งจะตายหมด มะเร็งเกิดขึ้นเพราะภูมิต้านทานต่ำลง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเลือดอย่างใกล้ชิด ถ้าเลือดสะอาด ขับสารพิษออกไป สุขภาพก็จะแข็งแรงขึ้น การมีไข้ขึ้นก็เพราะร่างกายต้องการขับสารพิษหรือขยะออกจากเลือด เพื่อเสริมภูมิต้านทาน เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศา ภูมิต้านทานจะเพิ่มขึ้น 5-6 เท่า แต่ถ้าต่ำลง 1 องศา ภูมิต้านทานจะลดลง 30% ขณะที่อุณหภูมิร่างกายต่ำที่สุดจะเป็นเวลาที่อัตราการตายสูงที่สุด
ไม่เพียงแต่มะเร็ง การป้องกันโรคอื่น ก็ควรพยายามปรับอุณหภูมิร่างกายให้สูงขึ้นเช่นกัน โดยมีหลายวิธี เช่นการออกกำลังกาย การอาบน้ำอุ่น การรับประทานอาหารที่เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย รวมถึงขิง กระเทียม ต้นหอม แอปเปิล เชอร์รี น้ำตาลทรายแดง ชาแดง ปลาและหอย การดื่มชาแดงใส่ขิงสด จะทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การดื่มน้ำอุ่นก็ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย แก้อาการท้องผูก ลดความอ้วน และเสริมสวยได้ด้วย
การเสริมภูมิต้านทาน ป้องกันมะเร็งและโรคเรื้อรังชนิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องกินยาราคาแพง เพียงใช้วิธีการดังกล่าวก็สามารถได้ผลที่น่าพอใจได้ อีกทั้งยังประหยัดเงินได้มากด้วย