เมื่อ 50 ปีก่อน สำหรับชาวจีน โรคมะเร็งยังเป็นศัพท์ที่แปลกหู แต่ปัจจุบัน แต่ละปี ประเทศจีนจะมีผู้ป่วยโรคมะเร็งที่พบใหม่ประมาณ 3.12 ล้านคน เสียชีวิตจากโรคมะเร็งกว่า 2 ล้านคน หมายถึงทุกนาที มี 6 คนถูกวินัจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง กล่าวได้ว่า มะเร็งกลายเป็นโรคเรื้อรังที่ชาวจีนเป็นมากที่สุด มีอัตราการตรวจพบและการตายสูงสุดโรคหนึ่งแล้ว
นายจือ ซิวอี้ ผู้อำนวยการศูนย์ตรวจและรักษามะเร็งปอดของโรงพยาบาลซวนอู่ เป่ยจิงกล่าวว่า ในจีน มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านมและมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมีอัตราการตายสูงสุด เขาเห็นว่าสาเหตุสำคัญคือ จีนเร่งกระบวนการอุตสาหกรรมในเขตชนบท ให้ชนบทเป็นเมืองอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และรับประทานอาหารอย่างไม่ตามหลักวิทยาศาสตร์ การใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นระบบระเบียบ อีกทั้ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญต่อการตรวจสุขภาพ มีอาการเกิดขึ้นแล้วถึงจะไปตรวจและรักษาที่โรงพยาบาล แต่ได้เสียโอกาสการรักษาที่ดีที่สุดไปแล้ว
นายจือ ซิวอี้สรุปว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดมี 5 ประการ
1. มลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะหมอกฝุ่นควันที่มีค่า PM2.5 สูงกว่ามาตรฐาน เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจอย่างมาก
2. ควันบุหรี่ จีนมีผู้สูบบุหรี่จำนวน 350 ล้านคน ไม่ว่าการสูบเอง หรือรับควันบุหรี่มือสอง มือสาม ล้วนจะได้รับสารพิษที่อาจทำให้เกิดมะเร็งกว่า 60 ชนิดเข้าสู่ร่างกาย ถ้าสูบบุหรี่เป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก ผลการวิจัยปรากฏว่า ผู้เป็นมะเร็งปอด 85% มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่
3. ควันน้ำมันจากการผัดกับข้าวในห้องครัว แม้ว่าอาหารจีนอร่อยมาก แต่ถ้าไม่ให้ความสำคัญต่อวิธีการปรุงอาหาร และไม่สนใจการถ่ายเทอากาศในห้องครัว ควันน้ำมันที่เกิดจากการทอด ปิ้ง ย่าง และผัดจะทำลายระบบทางเดินหายใจของแม่ครัวพ่อครัว
4. การตกแต่งบ้าน เมื่อซื้อบ้านหลังใหม่แล้ว เรามักอยากตกแต่งใหม่ให้สวยงาม น่าอยู่ บางคนชอบใช้หินอ่อน (Marble) ธรรมชาติปูพื้น ทำโต๊ะปรุงอาหาร แต่ไม่ทราบว่า หินอ่อนธรรมชาติมีสารเรดอน(Radon) ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศอย่างเป็นทางการว่า เป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ ในของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ยังมีฟอร์มาลดีไฮด์ และเบนซิน(Benzene) ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจทำให้เกิดมะเร็งได้
5. อีกประการหนึ่งคือการโกรธแค้น โมโห ผู้เชี่ยวชาญเรียกผู้ที่ขี้โมโหว่ามีบุคลิกมะเร็ง เมื่อมีแรงกดดันด้านการทำงาน การใช้ชีวิตครอบครัวนั้น ไม่สามารถแก้ไขให้ตกด้วยตนเองได้ หรือแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมงานหรือญาติมิตรไม่เป็น ไม่สามารถระบายอารมณ์ไม่ดีออกไปได้ ทั้งนี้จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเช่นกัน
ความจริง ทุกคนมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นมะเร็ง เพราะว่าในร่างกายคน มีเซลล์มะเร็งอยู่ตลอดชีวิต เมื่อถูกแรงกดดันหรือปัจจัยภายนอกกระตุ้น เซลล์มะเร็งก็อาจจะตื่นขึ้นหรือฟื้นตัว สหพันธ์ต่อต้านมะเร็งสากลประกาศรายงานว่า แต่ละปี ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มกว่า 12 ล้านคน ในจำนวนนี้ ประมาณ 40% ป้องกันได้ ต่อไปจะแนะนำวิธีการป้องกันมะเร็งที่ง่ายๆ และราคาถูกที่สุด 10ประการ
1. รับประทานน้ำตาลให้น้อย
อาหารที่เซลล์มะเร็งชอบที่สุดคือน้ำตาล หนังสือเรื่อง "ป้องกันมะเร็งอย่างไร" ของญี่ปุ่นชี้ว่า ขณะที่เลือดไหลผ่านเซลล์เนื้องอก น้ำตาลในเลือดประมาณ 57% จะถูกเซลล์มะเร็งใช้ไปเป็นสารอาหาร นิตยสารโภชนาการของสหรัฐอเมริการะบุว่า แต่ละวันดื่มเครื่องดื่มหวาน 2 แก้ว จะทำให้ความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนสูงกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม 90% ดังนั้น แต่ละวัน การรับประทานน้ำตาลไม่ควรเกิน 50 กรัม
2. เปิดหน้าต่างวันละอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
มลพิษที่เกิดจากการตกแต่งบ้านนอกจากมีฟอร์มาลดีไฮด์แล้ว ยังมีสารเรดอน ที่แฝงอยู่ในปูนซีเมนต์และกระเบื้องเคลือบ ระบายออกจากลอยแตกไปทั่วห้อง ถ้าคนเราหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานาน จะทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดมะเร็งปอด ถ้าสามารถเปิดหน้าต่างวันละสักครึ่งชั่วโมงได้ ถ่ายเทอากาศภายในห้อง ความเข้มข้นของฟอร์มาลดีไฮด์ก็จะลดลงถึงระดับเท่ากับภายนอก นอกจากนี้ การเผาไหม้ก็จะเกิดฟอร์มาลดีไฮด์ด้วย ดังนั้น เวลาต้มน้ำในห้องครัว ควรเปิดหน้าต่าง และปิดประตูที่เชื่อมกับห้องนอน
3. รับประทานต้นหอมและกระเทียมขณะรับประทานอาหาร
ในจีน มณฑลที่มีอัตราการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารต่ำที่สุดคือซานตง ซึ่งเป็นมณฑลที่ผลิตต้นหอมและกระเทียมมาก เช่น ในอำเภอชางซาน มณฑลซานตง เฉลี่ยแล้วแต่ละคนรับประทานกระเทียม 6 กิโลกรัมต่อปี ผู้ที่ชอบรับประทานกระเทียมจะลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร 60% กระเทียมต้องสับและวางไว้ในอากาศที่มีอากาศถายเท ถึงจะเกิดสารป้องกันมะเร็งได้ ถ้าพบความร้อน เช่น ผัด ทอด ต้มแล้ว จะสูญเสียบทบาทโดยเร็ว