สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาได้ประกาศ "รายงานเกี่ยวกับการค้าและการพัฒนาประจำปี 2014" โดยระบุว่าเศรษฐกิจโลกยังไม่มีวี่แววเติบโตอย่างยั่งยืน ปัญหาหลักยังอยู่ที่ความต้องการไม่เพียงพอและระบบการเงินไม่มั่นคง
รายงานฉบับนี้ระบุว่า ปี 2014 อัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 2.5-3 ต่ำกว่าระดับสูงสุดก่อนเกิดวิกฤติการเงิน การฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกยังอ่อนกำลัง รายงานฉบับนี้คาดว่า ปี 2014 อัตราเติบโตของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาอยู่ประมาณร้อยละ 1.8 อัตราเติบโตของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาจะเป็นร้อยละ 4.5-5 ส่วนอัตราเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปตะวันออกเฉียงใต้กับเครือรัฐเอกราชจะลดลงเป็นร้อยละ 1
ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาเห็นว่า การแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจซบเซานั้นไม่ต้องการฟองสบูการเงินใหม่ แต่ต้องเพิ่มเงินเดือนที่เป็นจริงกับการกระจายรายได้อย่างเสมอภาคมาทำให้ความต้องการทั่วไปเติบโต รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจภาคการเงินยังคงอยู่ในฐานะสำคัญกว่าเศรษฐกิจภาคการผลิต สัดส่วนเงินเดือนลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกยังไม่สามารถหาทางออกและแก้ไขต้นตอที่ทำให้เกิดวิกฤติการเงินและการฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าของเศรษฐกิจ
รายงานฉบับนี้กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจระหว่างประเทศชะลอลงไม่ได้เกิดจากกำแพงการค้าเพิ่มมากขึ้นกับการสนองไม่เพียงพอ หากเป็นเพราะความต้องการทั่วโลกไม่เติบโต การใช้วิธีการต่างๆ เช่น ลดเงินเดือนกับลดค่าใช้จ่ายภายในเพื่อกระตุ้นการส่งออกนั้นไม่ถูกต้อง การขยายตัวของการค้าทั่วโลกควรพึ่งพาการเติบโตที่เข้มแข็งของเศรษฐกิจที่เกิดจากการกระตุ้นความต้องการภายในประเทศ
(In/zheng)