วันที่ 13 ตุลาคมนี้ สำนักงานสารนิเทศคณะรัฐมนตรีจีนจัดการแถลงข่าว นายเจิ้ง เย่ว์เซิง โฆษกสำนักงานใหญ่ศุลกากรจีนกล่าวว่า ใน 3 ไตรมาสแรกปีนี้ ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกของจีนเป็น 19,400,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ในจำนวนนี้ ยอดการค้ากับอาเซียนเพิ่มขึ้น 6% และคาดว่าแนวโน้มการฟื้นตัวเช่นนี้ยังจะเป็นต่อไปในไตรมาสที่ 4
จากสถิติสำนักงานศุลกากรจีนปรากฏว่า ใน 3 ไตรมาสแรกปีนี้ ยอดการส่งออกของจีนเป็น 10,400,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนยอดการนำเข้าเป็น 9,000,000 ล้านหยวน ลดลง 0.1% นายเจิ้ง เย่ว์เซิงกล่าวว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ การนำเข้าและส่งออกของจีนลดลง 3.8% ไตรมาสที่ 2 สถิติดังกล่าวเพิ่มขึ้น 1.8% ไตรมาสที่ 3 สถิตินี้เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อมองจากสถิติดังกล่าวสังเกตได้ว่า สถานการณ์การนำเข้าและส่งออกของจีนใน 3 ไตรมาสแรกปีนี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากสถิติสำนักงานศุลกากรยังปรากฏอีกว่า การค้าแบบทวิภาคีระหว่างจีนกับหุ้นส่วนสำคัญต่างมีการเติบโตขึ้น ใน 3 ไตรมาสแรกปีนี้ ยอดการค้าแบบทวิภาคีระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปเป็น 2,810,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10.2% การค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯเป็น 2,480,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.2% และการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนเป็น 2,130,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6%
นายเจิ้ง เย่ว์เซิงคาดว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ สภาพการนำเข้าและส่งออกของจีนจะดีขึ้นต่อไป คาดว่าในช่วงสองสามเดือนข้างหน้า ความกดดันด้านการส่งออกของจีนจะลดน้อยลง แต่เขาชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์การค้ากับต่างประเทศของจีนยังคงเผชิญกับผลกระทบทางลบจำนวนหนึ่ง ประการแรกคือ กำลังแข่งขันของสินค้าจีนในตลาดโลกตกต่ำลง ประการที่ 2 การลงทุนของประเทศพัฒนาจำนวนหนึ่งที่มีต่ออุตสาหกรรมการผลิตของจีนลดลงอย่างมาก การที่อุตสาหกรรมการผลิตของจีนมีการใช้ทุนต่างชาติน้อยลงนั้น จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีนในระยะกลาง ประการที่ 3 ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าการนำเข้าของจีนตกต่ำลงตาม
นายเจิ้ง เย่ว์เซิงยังระบุว่า เป้าหมายการเติบโตทางการค้าปีนี้ซึ่งเป็น 7.5% นั้น เป็นภารกิจหนักหน่วงอย่างยิ่ง เขาเสนอว่า ภายใต้สถานการณ์ใหม่ จีนควรให้ความสำคัญต่อคุณภาพและประสิทธิผลของการค้ากับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น