อาคารใหม่หลังนี้สูง 541 เมตร มี 104 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี ใช้เงินกว่า 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้เป็นอาคารสูงสุดของสหรัฐฯ
เมื่อเช้าวันเดียวกัน พนักงานบางส่วนของบริษัท Condé Nast ซึ่งเป็นบริษัทสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เริ่มย้ายเข้าสู่ห้องทำงานบนชั้น 5 ของอาคาร ปีหน้ายังจะมีพนักงานอีกกว่า 3,000 คนย้ายเข้าไปอีก ขณะนี้ ห้องต่างๆ ภายในอาคารกว่า 60% ถูกเช่าไปแล้ว โดยส่วนหนึ่งจะเป็นสถานที่ทำการของสำนักงานกิจการทั่วไปของรัฐบาลสหรัฐฯ นางเจซซิกา ลัปปินจากสหพันธ์ศูนย์กลางนิวยอร์กระบุว่า การเปิดรับแรกของตึกเวิร์ดเทรดเซนเตอร์หลังใหม่มีความหมายพิเศษ อาคารหลังนี้มิเพียงแต่เป็นตัวแทนสถาปัตยกรรมยุคปัจจุบันเท่านั้น หากยังเป็นตัวแทนแห่งการยึดมั่นคำสัญญาที่พวกเราเคยทำไว้
นายแพทริก โฟเย อธิบดีกรมท่าเรือนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารกล่าวว่า ตึกระฟ้าหลังนี้เป็นหนึ่งในอาคารที่ปลอดภัยที่สุดของสหรัฐฯ เป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรมท่าเรือนิวยอร์ก สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ กระทรวงความมั่นคงแห่งดินแดนสหรัฐฯ ตลอดจนหน่วยงานตำรวจนิวยอร์ก ซึ่งทำหน้าที่ก่อสร้างอาคารและติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคาร
สำหรับชาวเมืองนิวยอร์ก อาคารใหม่หลังนี้ ยังเป็นตัวแทนความหวังที่มีต่ออนาคต นายโจ มาร์ติน คนงานก่อสร้างกล่าวว่า มีคนมากมายสูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างจากโศกนาฏกรรมครั้งนั้น และยังคงจดจำไว้จนถึงทุกวันนี้ ขณะนี้ สหรัฐฯ ลุกขึ้นอีกครั้ง ปัดฝุ่นบนร่างกายแล้วเดินหน้าต่อไป
ก่อนหน้านี้ อนุสาวรีย์และอนุสรณ์สถานรำลึกเหตุการณ์ 11 กันยาได้เปิดให้เข้าชมแล้ว ส่วนห้องชมวิวบนยอดอาคารเวิล์ดเทรดเซนเตอร์จะเปิดให้เข้าชมในปีหน้า