เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การประชุมผู้นำทางธุรกิจขององค์การ APEC ประจำปี 2014 ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันได้เริ่มขึ้นแล้วที่กรุงปักกิ่ง ผู้นำจากเขตเศรษฐกิจต่างๆ ขององค์การเอเปค ผู้นำภาคธุรกิจจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและนักวิชาการที่มีชื่อเสียงจำนวน 1,500 คนเข้าร่วมการประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและข้อเสนอเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่มุ่งสู่อนาคต และอัดฉีดพลังให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในที่ประชุมครั้งนี้ ผู้นำส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจนอกองค์การ APEC ที่เข้าร่วมประชุมระบุ หวังว่าจะเข้าร่วมองค์การ APEC ร่วมส่งเสริมให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกพัฒนารวมกันเป็นหนึ่งเดียว

โดยในที่ประชุมครั้งนี้มีหลายประเด็นที่น่าสนใจในการอภิปราย เช่น การจะส่งเสริมให้เศรษฐกิจในเอเชียเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร หลังจากการประชุมระดับรัฐมนตรีของ APECบรรลุความเข้าใจร่วมกันของโรดแม็พปักกิ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิกแล้วก็จะเป็นการแสวงหาลู่ทางที่สามารถปฏิบัติได้ตามโรดแม็พนี้

นายMichelle Bachelet ประธานกรรมการ และ CEO ของบริษัท Caterpillar ระบุ เวลานี้ บริษัทเติบโตขึ้นเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 1989 ก็เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของ APEC เขาเห็นว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การได้รับการสนับสนุน และการกระตุ้นเพื่อบรรลุความตกลงว่าด้วยการค้าแบบหลายขั้วจากผู้นำของเขตเศรษฐกิจต่างๆ

นายเถียน กั๋วลี่ ประธานกรรมการของแบ๊งค์ อ็อฟ ไชน่าระบุ การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอให้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานแห่งเอเชีย และนำหน้าจัดตั้งกองทุน ซึ่งจะแสดงบทบาทในการนำร่องนั้น หวังว่าจะมีประเทศในเอเชียและบริษัทต่างๆ ได้ร่วมในจำนวนที่มากขึ้น เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้ตลาดเอเชียมีความคึกคักยิ่งขึ้นไป

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมไทยระบุ การที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเร่งการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน และบรรลุการเชื่อมสัมพันธ์และการติดต่อระหว่างกัน จะทำให้วิสาหกิจทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งเกษตรกรชาวไทยได้รับผลประโยชน์ ไทยจะสร้างรถไฟความเร็วสูง เพราะจะเชื่อมระหว่างทางใต้กับทางเหนือ การคมนาคมมีความหมายสำคัญมากต่อประเทศไทย โดยเฉพาะมีความสำคัญต่อการเกษตร