สวนจิ่งซานยังกำหนดว่า กิจกรรมเต้นรำหรือเล่นดนตรีเป็นกลุ่มในสวนต้องทำในช่วงเช้า และห้ามดำเนินการหลังเที่ยง ผู้รับผิดชอบของสวนจิ่งซานบอกว่า หลังจากมาตรการดังกล่าวบังคับใช้แล้ว เสียงรบกวนในสวนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนฟ้องเรื่องนี้แล้ว
เขายังบอกว่า สวนจิ่งซานเป็นสวนระดับเมืองที่มีพื้นที่น้อยที่สุดในปักกิ่ง แต่เนื่องจากตั้งอยู่ในใจกลางเมือง มีผู้อยู่อาศัยในบริเวณนี้จำนวนมาก ปีหลังๆนี้ ผู้คนรอบข้างต่างฟ้องว่า ไม่กล้าเปิดหน้าต่างและนอนไม่หลับเพราะเสียงรบกวนดังมาก ผู้นิยมเดินเล่นในสวนก็ลดน้อยลงเพราะไม่ชอบเสียงดังจากการเต้นรำตามลาน แต่ปัจจุบัน สวนจิ่งซานได้ใช้มาตรการยับยั้งเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิผล ผู้เข้าไปเที่ยวในสวนเพิ่มขึ้น คำบ่นต่างๆก็น้อยลงเรื่อยๆ
ปัจจุบัน ประสบการณ์ในการลดเสียงรบกวนก็ได้รับการเผยแพร่ไปยังสวนสาธารณะอื่นๆด้วย สวนสาธารณะเทียนถาน หรือหอไหว้ฟ้าที่กรุงปักกิ่ง นอกจากใช้มาตรการจำกัดระดับเสียงภายในสวนแล้ว ยังได้สร้างลานกว้างนอกสวนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่ห่างไกลจากเขตชุนชน เพื่อเป็นสถานที่สำหรับการเต้นรำตามลานโดยเฉพาะ ทั้งนี้ได้รับการชื่นชมจากบรรดาพ่อบ้านแม่บ้านจีนอย่างมาก เพราะไม่ต้องกลัวถูกฟ้องเรื่องเสียงรบกวน
ทั้งนี้เป็นสวนที่ใช้มาตรการลดเสียงรบกวนได้ดี แต่ก็ยังมีหลายสวนที่จัดการเรื่องนี้ไม่ดี อย่างในสวนเถาหรานถิง ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงปักกิ่ง ผู้สื่อข่าวได้ยินเสียงดนตรีหลายชนิด มีทั้งคนฝึกเสียง ร้องเพลง และเต้นรำเป็นกลุ่มใหญ่กว่าร้อยคน เครื่องตรวจเสียงระบุว่า ระดับเสียงจะสูงถึง 100 เดซิเบล ซึ่งเท่ากับเสียงรถแทรกเตอร์ ผู้ฝึกร้องเพลงในสวนนี้คนหนึ่งบอกว่า เขามาฝึกเสียงที่นี่ทุกวัน บางทีฝึกคนเดียว บางทีร้องกับเพื่อนๆพร้อมกัน รู้สึกสนุกสนาน ก็อาจมีบางคนไม่ชอบ แต่พวกเขาไม่รบกวนคนอื่นที่อยู่รอบข้าง
ต่อปัญหานี้ นักวิเคราะห์เห็นว่า สำหรับสวนต่างๆซึ่งอยู่คนละที่ ควรใช้มาตรการแตกต่างกันตามสภาพความเป็นจริง บางสวนมีพื้นที่กว้าง และห่างไกลจากเขตชุมชน การเต้นรำตามลานในสวนแบบนี้จะไม่รบกวนคนอื่น แต่สวนเล็กในกลางเมืองบางที่ รอบข้างเป็นเขตชุมชน หากมีการเต้นรำหรือร้องเพลงในสวน ก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงานหรือการพักผ่อนของคนอื่น จึงต้องใช้มาตรการจำนวนหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาเสียงรบกวน
นอกจากปักกิ่งแล้ว พื้นที่อื่นๆที่มีปัญหาเช่นกันต่างก็แสวงหาวิธีแก้ไข ที่เมืองฮาร์บิน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน หน่วยงานปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในเขตชุมชนเพื่อตรวจสอบและกำกับกิจกรรมที่เกิดเสียงรบกวน โดยกำหนดว่า ระหว่าง 22:00- 06:00 น.ทุกวัน หากมีกิจกรรมที่ส่งเสียงรบกวนในเขตชุมชนจะถูกปรับ 200-500 หยวน
ที่เมืองซีอัน เทศบาลจัดการประชุมรวบรวมความคิดเห็นเพื่อข้อกำหนดป้องกันเสียงรบกวนต่อสิ่งแวดล้อม โดยเสนอให้จำกัดเวลา สถานที่ และระดับเสียงของกิจกรรมต่างๆที่เกิดเสียงรบกวน โดยเฉพาะการเต้นรำตามลานและการร้องเพลงเป็นกลุ่ม
ผลการสำรวจยังปรากฏว่า คนจำนวนมากเห็นว่า คณะกรรมการประจำเขตชุมชนต่างๆควรแสดงบทบาทมากยิ่งขึ้นในการประสานงานและจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมสำหรับประชาชนทั่วไป นอกจากปรับเงินแล้ว ยังควรแสวงหาวิธีการที่ดียิ่งเพื่อแก้ปัญหาเสียงรบกวน ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมสำหรับชุมชน
