เหตุการณ์ก่อการร้ายที่กรุงปารีสสร้างความสะเทือนใจให้คนทั่วโลก สถานการณ์ความมั่นคงของยุโรปและสหรัฐฯ เป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง ประเทศตะวันตกต่างพากันยกระดับการปราบปรามการก่อการร้ายให้ขึ้นสูง กำหนดมาตรการป้องกันต่างๆ และวางแผนดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของแคนาดาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในของ 10 ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปได้จัดการประชุมว่าด้วยการปราบปรามการก่อการร้ายที่กระทรวงกิจการภายในของฝรั่งเศส โดยตกลงกันว่าจะส่งเสริมความร่วมมือด้านการปราบปรามการก่อการร้าย
นักวิเคราะห์เห็นว่า ระยะหลังๆ นี้ ฝรั่งเศสได้เกิดเหตการณ์ก่อการร้ายหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ความมั่นคงของฝรั่งเศสตลอดจนทั่วทั้งยุโรปเลวร้ายลง ในปัญหาโจมตีลัทธิก่อการร้ายนั้น ประเทศตะวันตกไม่เพียงแต่ร่วมมือกันเท่านั้น หากยังควรค้นหาสาเหตุที่แท้จรองของการเกิดลัทธิก่อการร้าย และขจัดการก่อการร้ายจากต้นเหตุ หากฝ่ายตะวันตกไม่รับบทเรียนอย่างจริงจัง ก็จะไม่สามารถยุติการก่อการร้ายอย่างสิ้นเชิงได้
สื่อมวลชนฝรั่งเศสเผยว่า พลเมืองของประเทศสหภาพยุโรปจำนวนหลายพันคนได้เข้าร่วมองค์การหัวรุนแรงหรือองค์การต่อต้านรัฐบาลของตะวันออกกลาง บางคนได้เข้าร่วมกับการปะทะด้วยกำลังอาวุธที่ตะวันออกกลางด้วย ในจำนวนนี้ มีส่วนหนึ่งได้กลับสู่ยุโรปแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นการคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศสหภาพยุโรป
รัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุมเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมาเห็นว่า ควรตรวจสอบและจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรงเหล่านี้ สร้างระบบเก็บข้อมูลของผู้โดยสารกับบริษัทสายการบิน เพื่อติดตามกลุ่มคนที่ไปเข้าร่วมทำสงครามที่ตะวันออกกลางและกลับสู่ยุโรป นอกจากนี้ ยังจะเสริมกำลังโจมตีการเคลื่อนย้ายปืนที่ผิดกฎหมายภายในสหภาพยุโรปด้วย
รัฐมนตรียุติธรรมของสหรัฐฯ กล่าวที่กรุงปารีสว่า สหรัฐฯ จะเชิญชวนประเทศภาคีจัดการประชุมสุดยอดเพื่อปราบปรามการก่อการร้ายที่กรุงวอชิงตันในวันที่18 กุมภาพันธ์ เพื่ออภิปรายในประเด็นการลิทธิหัวรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปราบปรามการก่อการร้ายของฝรั่งเศสเห็นว่า ฝรั่งเศสตลอดจนทั่วโลก มีการปะทะทางเผ่าชน ศาสนาและข้อขัดแย้งทางการเมือง ทั้งนี้เป็นสาเหตุทางสังคมอย่างลึกซึ้ง ฝรั่งเศสไม่สามารถขจัดลัทธิก่อการร้ายภายในระยะเวลาอันสั้น
Toon/Lr