投资/TCYEP
|
กรุงเทพฯ – วันที่ 3 มีนาคม 2558 เวลา 15.30 น. กลุ่มนักธุรกิจและผู้นำรุ่นใหม่ไทย-จีนที่เข้าร่วมกิจกรรม TCYEP (Thai-Chinese Young Executive Program) ที่ให้โอกาสตัวแทนคนรุ่นใหม่จากไทยและจีนได้มาใช้ชีวิตร่วมกันและจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เดินทางเข้าร่วมกิจกรรม ณ ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่สาขาราษฎร์บูรณะ เพื่อรับฟังการบรรยายเรื่องการลงทุนในเมืองไทยและความสัมพันธ์ระหว่างไทย –จีน และ AEC
เริ่มกล่าวเปิดงานโดยคุณพิพิธ อเนกนิธิ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย หลังจากนั้นการบรรยายแบ่งเป็นสามช่วง โดยเริ่มที่การปูความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในภาพรวม (Thailand Economic Overview ) โดย นางดลพร ชื่นชลพฤกษ์ นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน ระดับชำนาญการของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งประเทศไทยก็อยู่ในอันดับที่น่าสนใจในการจัดอันดับโดยแบ่งตามประเภทต่างๆ เช่น มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และเมื่อมองไปที่ระดับโลก ในฐานะศูนย์กลางของอาเซียน-ประเทศไทยเป็นโรงงานผู้ผลิตอันดับที่ 17, อันดับที่ 24 ของขนาดเศรษฐกิจในแง่กำลังซื้อและอันดับที่ 28 ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลก (คิดเป็น % จากจำนวนผลิตภัณฑ์โลกทั้งหมด)
นอกจากนี้ธนาคารโลกยังจัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อการลงทุนมากที่สุดอันดับที่ 26 ของโลกและเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองมาจากสิงคโปร์และมาเลเซีย
2-3ปีที่ผ่านมา มีนักลงทุนจากจีนให้ความสนใจมาลงทุนในประเทศไทยมากเป็นอันดับ 2 โดยอุตสาหกรรมที่เป็นที่นิยมของนักลงทุนชาวจีน ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมโลหะและเครื่องจักร, การเกษตร, เซรามิกและแร่ธาตุ, อุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนไฟฟ้า และล่าสุดที่ดึงดูดนักลงทุนชาวจีนยังมีอุตสาหกรรมด้านยางพารา, รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์รวมไปถึงรถไฟหรือรถไฟฟ้าอีกด้วย BOI ยังได้จัดบริการแบบ One Start One Stop Investment Center หรือศูนย์บริการนักลงทุนต่างชาติแบบครบวงจร ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างจามจุรีสแควร์ ช่วยเพิ่มสะดวกสบาย ประหยัดเวลาให้กับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
ช่วงที่สอง เป็นการแนะนำเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และบทบาทของไทยใน AEC บรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ผู้เข้าฟังจะเข้าใจภาพรวม ทราบความเป็นมาของประชาคมอาเซียน ประเทศสมาชิก ขนาดตลาด และเจาะลงไปที่ด้านเศรษฐกิจหรือ AEC ข้อได้เปรียบของประเทศไทยคือการตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ เป็นศูนย์กลางของการศึกษาวิจัยและศูนย์กลางการค้า และยังเป็นแหล่งผลิตขั้นสุดท้ายรวมถึงเป็นตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ในภูมิภาค และปิดท้ายด้วยการเชิญเจ้าของกิจการชาวต่างชาติ ผู้มีประสบการณ์การลงทุนในไทยและประเทศอื่นๆในเขตอาเซียนมาแบ่งปันความคิดเห็น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ฟังประสบการณ์จากผู้ลงทุนตัวจริงเสียงจริงก่อนที่จะลงสนามเพื่อต่อสู้ในภูมิภาคอาเซียน - ตลาดขนาดใหญ่ 600 ล้านคนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของภาษาและวัฒนธรรม
เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿