ทุกวันนี้ ประเทศเอเชีย-แอฟริกาจำนวนไม่น้อยได้ขยับขึ้นเป็นจุดเติบโตระดับโลกแห่งใหม่จากเดิมที่เป็นประเทศด้อยพัฒนา และเติบโตเป็นประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ต่างๆ จากเดิมที่เป็นประเทศอ่อนแอและล้าหลัง ตลอดจนเป็นประเทศที่มีส่วนร่วมกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ เมื่อปีที่แล้ว มวลรวมการผลิตภายในประเทศของทวีปเอเชีย-แอฟริกา 2 ทวีปมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 51 ของโลก เอเชีย-แอฟริกามีประเทศที่เศรษฐกิจเจริญขึ้นใหม่ระดับโลกหลายประเทศ หนึ่งในนั้นก็คือ จีน ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นราว 70 เท่า ขยับขึ้นเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก อย่างไรก็ตาม ประเทศเอเชีย-แอฟริกายังคงเผชิญกับภาระอันหนักอึ้งในการพัฒนาเศรษฐกิจและปรับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
ระหว่างการพัฒนาประเทศตนนั้น จีนให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาเท่าที่สามารถช่วยได้มาโดยตลอด ระหว่างการประชุมผู้นำเอเชีย-แอฟริกาครั้งนี้ นายสี จิ้นผิงให้คำมั่นสัญญาขณะกล่าวปราศรัยว่า จะสนับสนุนการพัฒนาของประเทศเอเชีย-แอฟริกา เขาระบุว่า ภายใต้สถาการณ์ใหม่ จีนจะแน่วแน่ต่อการเดินหน้าความร่วมมือเอเชีย-แอฟริกา จะเพิ่มความร่วมมือด้านการรักษาสันติภาพและความมั่นคงกับประเทศแอฟริกามากขึ้น ช่วยประเทศแอฟริกาเสริมกำลังความสามารถด้านการรักษาสันติภาพ ปราบปรามการก่อการร้ายและโจรสลัดให้สูงขึ้น จีนยินดีดำเนินโครงการความร่วมมือภาคการผลิตกับชาติเอเชีย-แอฟริกา ภายในปีนี้จีนจะลดภาษีศุลกากรให้เหลือเป็นศูนย์สำหรับสินค้าร้อยละ 97 ที่นำเข้าจากประเทศด้อยพัฒนาที่สุดที่ได้เจริญความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ทั้งจะให้ความช่วยเหลือโดยไม่มีเงื่อนไขบังคับทางการเมืองแต่อย่างใด แก่ประเทศกำลังพัฒนาต่อไป นอกจากนี้ จีนยินดีร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเดินหน้าสร้าง "1 แถบ 1 เส้นทาง" ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (เอไอไอบี) และใช้กองทุนเส้นทางสายไหมให้เป็นประโยชน์
ประธานาธิบดีจีนยังระบุอีกว่า จีนจะผลักดันความร่วมมือใต้กับใต้ และความร่วมมือเหนือกับใต้ ร่วมกันรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคและของโลก ส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน
(IN/LING)