อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เลี่ยงที่จะยอมรับก่อสงคราม แต่นายอาเบะยังคงยอมรับว่าญี่ปุ่นเคยยอมรับแถลงการณ์พอทส์แดมในสมัยนั้น ซึ่งจีน สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ 3 ประเทศร่วมประกาศเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมปี 1945 เร่งให้ญี่ปุ่นยอมจำนนอย่างไร้เงื่อนไขบังคับทันที และให้ญี่ปุ่นปฏิบัติตาม "ปฏิญญาไคโร" ฉบับเดือนธันวาคมปี 1943 แถลงการณ์พอทส์แดมและ "ปฏิญญาไคโร" นับเป็นพื้นฐานในการกำหนดระเบียบโลกหลังสงคราม โดยรัฐบาลญี่ปุ่นในสมัยนั้นประกาศยอมจำนนตามข้อกำหนดของแถลงการณ์พอทส์แดม ซึ่งระบุไว้อย่างชัดแจ้งว่า ญี่ปุ่นเป็นผู้ก่อสงคราม
ปีนี้เป็นปีครบรอบ 70 ปีชัยชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ของทั่วโลก ชัยชนะดังกล่าวทำให้จักรพรรดิญี่ปุ่นและจักรพรรดิอื่นๆ ต้องสิ้นสุดอาชญากรรมสงครามรุกรานประเทศอื่น ทำให้โลกมนุษย์ ซึ่งรวมถึงประเทศผู้พ่ายแพ้อย่างญี่ปุ่นด้วย มีสันติภาพเป็นเวลานานนับ 70 ปีจนกระทั่งถึงวันนี้
ปีนี้เป็นปีครบรอบ 70 ปีญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามรุกราน โอกาสนี้ อิทธิพลฝ่ายขวาของญี่ปุ่นหมายจะท้าทายประวัติศาสตร์ และพลิกขาวเป็นดำ ทว่าการที่ญี่ปุ่นสามารถมองประวัติศาสตร์อย่างถูกต้องหรือไม่ มีความกล้าที่จะยอมรับการรุกรานหรือไม่ ถือเป็นก้าวย่างที่ต้องก้าวสำหรับญี่ปุ่นในปีนี้ รัฐบาลชุดนายอาเบะจะเป็นไปในทิศทางไหน ทั่วโลกจะเฝ้าติดตามกันต่อไป
(IN/LING)