นางสาวห่าว ซื่อฮวา วัย 40 ปี เคยคว้าแชมป์ระดับชาติจากรายการสกีภูเขาสูงมาแล้ว 9 ครั้ง ปี 2012 เธอเปิดโรงเรียนสกีและตั้งชื่อโรงเรียนตามชื่อของเธอในอำเภอฉงหลี่ ซึ่งเป็นโรงเรียนสกีแห่งแรกของจีนที่เป็นอิสระจากสนามสกี การเปิดโรงเรียนสอนสกีนี้ ทำให้เธอมีสถานภาพใหม่เป็น "ครูใหญ่" ไปโดยปริยาย สิ่งที่ครูใหญ่คนนี้คิดอยู่ทุกๆ วันก็คือ ทำอย่างไรจึงจะให้ชาวจีนหันมาเล่นสกีกันมากขึ้น โดยที่โรงเรียนของเธอมีความได้เปรียบด้านตำแหน่งที่ตั้ง เธอระบุว่า
"ที่อำเภอฉงหลี่หิมะตกและกินเวลานานกว่า 150 วันในหนึ่งปี จุดนี้ได้เอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอนสกีเป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ อำเภอฉงหลี่ยังมีสนามสกีใหญ่ระดับโลก 5 แห่ง ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนกันและมีส่วนส่งเสริมการเรียนการสอนสกี ทำให้ชาวจีนชอบเล่นสกีมากขึ้น"
นอกจากนี้ อำเภอฉงหลี่อยู่ใกล้กรุงปักกิ่งและนครเทียนจินที่มีความเจริญที่สุดของจีน จึงมีศักยภาพและความคล่องตัวสูง เธอระบุว่า
"โรงเรียนเราก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 เวลานั้นมีโค้ชจำนวนเพียง 10 คน และนักเรียนเพียง 200 คน ทว่าในปีที่สอง ชาวจีนเริ่มสนใจเล่นสกีกันมากขึ้น เรามีโค้ชเพิ่มขึ้นเป็น 20 คน นักเรียนกว่า 1,000 คน และในปีที่แล้ว เพื่อรองรับกับปริมาณนักเรียนที่เพิ่มขึ้นถึง 3,000 คน เราก็ได้จ้างโค้ชเพิ่มขึ้นเป็น 30 คน ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าคงต้องจ้างโค้ชเพิ่มขึ้นในระยะอันใกล้นี้ที่จำนวนนักเรียนอาจจะมีเพิ่มขึ้นถึง30,000 คน"
นายหม่า ฉือ ผู้อำนวยการโรงเรียนสกีห่าวซื่อฮวาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การที่ปักกิ่งยื่นขอเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวจะกระตุ้นให้ชาวจีนหันมาเรียนสกีกันมากขึ้น โรงเรียนสกีต่างๆ จะได้ปรับตัวพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ด้านนางสาวห่าว ซื่อฮวาระบุว่า "โรงเรียนสกีที่สังกัดสนามสกีในจีนมีกว่า 500 แห่ง แต่ละแห่งมีโค้ชและพนักงาน 100-500 คน และขยายตัวทุกปี จึงคาดได้ว่า ชาวจีนที่นิยมเล่นสกีในไม่กี่ปีข้างหน้าจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายในการให้ 300 ล้านคนเล่นสกีจะเป็นจริงขึ้นในไม่ช้านี้
(TOON/LING)