หลายวันมานี้ อัตราการแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทะลุ 35 ทุบสถิติต่ำสุดรอบ 8 ปี จนถึงวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา อัตราการแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าอยู่ที่ 35.25 กลายเป็นดัชนีปิดตลาดต่ำสุดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่านั้น นอกจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทย หากยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเงินสากลด้วย วันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติไทยกล่าวว่า เนื่องจากตีพิมพ์และส่งร่างรัฐธรรมนูญและบัตรเลือกตั้งให้ผู้เลือกตั้งไม่ทัน ฉะนั้นอาจจะเลื่อนการเลือกตั้งจากต้นปีหน้าที่กำหนดไว้ออกไปถึงปลายปีหน้า ก็คือต้องรอจนถึงต้นค.ศ. 2017 ไทยถึงจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งชุดใหม่ เมื่อออกข่าวดังกล่าว จึงทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ลดลงอีก
มีนักวิชาการด้านการเงินไทยวิเคราะห์ว่า เนื่องจากความไม่แน่นอนของวิกฤตหนี้สินกรีซ ส่งผลให้สถานการณ์ตลาดยูโรยังไม่ประจักษ์ชัด ซึ่งเงินบาทไทยอาจจะอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องจากสาเหตุดังกล่าวด้วย
เวลานี้ ยอดการส่งออกของไทยคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 50 ของจีดีพีทั้งหมดของไทย โดยรัฐบาลไทยเห็นว่า การอ่อนค่าของเงินบาทจะมีบทบาทเชิงบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีไทยกล่าวว่า เขาหวังว่า เงินบาทไทยอ่อนค่าอีก โดยอัตราการแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ได้ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 8 ปีซึ่งเป็นมาตรฐานที่ค่อนข้างเหมาะสม
ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุลเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าไม่อยากตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท และกล่าวว่า ต้องใช้เวลา 3-4 เดือนจึงจะสัมผัสได้ถึงผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินบาท ซึ่งคาดว่า ยอดการส่งออกของปีนี้อาจหดตัวร้อยละ 2-3 นับเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน รัฐบาลไทยกำลังพยายามปรับเปลี่ยนแนวโน้มดังกล่าวนี้อยู่
(Yim/Cui)