พลเมืองส่วนใหญ่คงยังไม่คุ้นกับวันปลอดรถ จึงทำให้วันที่ 22 กันยายนเผชิญกับกรณีรถติดอย่างวันธรรมดาเช่นกัน เมื่อวันที่ 22 กันยายน ปี 2013 เวลาจราจรติดขัดที่กรุงปักกิ่งในวันเดียวกันมีประมาณ 11 ชั่วโมง วันที่ 22 กันยน ปี 2014 ถนนหนทางที่บริเวณรอบข้างถนนหวัง ฝูจิ่ง ศูนย์การค้าในตัวเมืองปักกิ่งเกิดจราจรติดขัดอย่างร้ายแรง

ปีนี้ ถึงวันที่ 22 กันยายนอีกแล้ว ทั้งๆที่เป็นวันปลอดรถ แต่หน่วยงานบริหารการจราจรกรุงปักกิ่งคาดว่า ในระหว่างวันที่ 21-25 กันยายนทั้งสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงที่การจราจรติดขัดมาก และเดือนกันยายนนี้จะเป็นเดือนที่จราจรติดขัดมากที่สุดของทั้งปีนี้

ในคนที่รู้จักวันปลอดรถโลก ซึ่งไม่ถึง 1% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจ นายเจ้า เจี๋ย ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนี้ เขาบอกว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายนปีที่แล้ว เขาขับรถเข้าไปในย่านที่ห้ามใช้รถยนต์โดยไม่ได้ตั้งใจ และคิดว่าต้องถูกปรับเงิน จึงกังวลไปหลายวัน แต่โชคดีที่ไม่ได้โดนปรับ วันปลอดรถปีนี้ เขาตั้งใจจะเข้าร่วมกิจกรรมหยุดการขับรถ และพยายามเชิญชวนเพื่อนๆเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย

หากผู้ที่มีรถทุกคนคิดอย่างนายเจ้า เจี๋ย หยุดการใช้รถส่วนตัวหนึ่งวัน เชื่อว่าต้องเป็นผลดีต่อทั้งสภาพจราจร อากาศและสิ่งแวดล้อมของปักกิ่งแน่นอน แต่การให้ผู้คนยอมรับการไม่ขับรถโดยสมัครใจ ควรมีเงื่อนไขต่างๆเอื้ออำนวย เช่น บริการรถเมล์ รถไฟใต้ดิน และระบบขนส่งมวลชนสาธารณะอื่นๆมีความสะดวด ความปลอดภัยของคนเดินถนนและคนขี่จักรยานได้รับการประกันอย่างดี เวลาเข้าทำงานและเลิกงานของหน่วยงานต่างๆมีการสลับกัน ไม่ต้องอยู่ในเวลาเดียวกัน หากหน่วยงานออกรถประจำรับส่งก็ยิ่งดี

ที่จริง ทางการปักกิ่งได้ใช้ความพยายามเพื่อส่งเสริมการเดินทางสีเขียวแล้ว เนื่องในโอกาสวันปลอดรถโลก ปีนี้ปักกิ่งจะกำหนดเขตสาธิตปลอดรถจำนวนหนึ่ง โดยห้ามใช้รถยนต์ในเขตเหล่านี้ ให้เพียงเดินหรือขี่จักรยานได้เท่านั้น และจะจัดบริการให้เช่าจักรยานสาธารณะด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การเดินทางของผู้คนในเขตดังกล่าว

ในอดีต หน่วยงานบริหารการคมนาคมปักกิ่งเพียงแต่ทำสถิติด้านสัดส่วนการเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะเท่านั้น ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จะเปลี่ยนเป็นการทำสถิติด้านสัดส่วนการเดินทาง "สีเขียว" โดยเพิ่มสภาพการเดินและขี่จักรยานเข้าไปด้วย ซึ่งจะเป็นดัชนีสำคัญในการประเมินสภาพการจราจรของกรุงปักกิ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม ระบบการขนส่งมวลชนสาธารณะที่สมบูรณ์แบบไม่อาจสร้างแล้วเสร็จภายในวันเดียว เมืองใดๆก็ไม่อาจกำหนดให้ทุกวันเป็นวันปลอดรถได้ แต่วันปลอดรถนั้นได้แสดงท่าทีของผู้คนที่หวังจะพิทักษ์ทรัพยากรรอบตัวเรา ได้แสดงความตั้งใจที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของเมือง หวังว่า ด้วยความพยายามร่วมของทุกฝ่าย ปัญหาจราจรติดขัดในเมืองนับวันจะผ่อนคลายลง สิ่งแวดล้อมรอบข้างนับวันจะดีขึ้น