สำนักข่าวซินหวารายงานว่า งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนตั้งแต่จัดขึ้นที่เมืองหนานหนิงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2004 ได้ผ่านมา 12 ปีแล้ว "ช่องทางหนานหนิง" กลายเป็นเวทีสำคัญด้านการพัฒนาความร่วมมือ และร่วมกันสร้าง "เส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษ 21"
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนครั้งที่ 12 ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 4 วันนั้น ปิดฉากลง การแสดงครั้งนี้มีบูธจัดแสดง 4,600 บูธ มีการประชุมอภิปรายระดับสูง 27 ครั้ง มีการลงนามโครงการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับต่างประเทศ 62 โครงการ และในประเทศ 107 โครงการ นับเป็นพยานของกระบวนการก้าวหน้าร่วมกันของจีนและอาเซียน
เมื่อ 6 เดือนก่อนการจัดงานแสดงครั้งนี้ สถานกงสุลมาเลเซียประจำเมืองหนานหนิงของจีนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ นับเป็นสถานกงสุลมาเลเซียประจำจีนแห่งที่ 4 จนถึงปัจจุบัน ที่เมืองหนานหนิงมีสถานกงสุลต่างประเทศทั้งหมด 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วนเป็นประเทศสมาชิกอาเซียน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจ 77 แห่งจากประเทศอาเซียนมาลงทุนที่เมืองหนานหนิง โดยยอดการลงทุนกว่า 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
นายโจว หงโป ผู้ว่าการเมืองหนานหนิง กล่าวว่า เมืองหนานหนิงได้เปิดสายรถไฟความเร็วสูงสู่ 13 มณฑลและเมือง ตลอดจนท้องที่หลายแห่งในเขตกว่างซีด้วย รถไฟความเร็วสูงเป็นวิธีการคมนาคมสำคัญที่นำมาซึ่งแรงกระตุ้นต่อเมืองหนานหนิง
นอกจากนี้ เมืองหนานหนิงกำลังผลักดันการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเมืองท่าเรือของจีนและอาเซียน เร่งสร้างระบบเชื่อมต่อกันที่มีความสะดวกระหว่างท่าเรือ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการสร้างช่องทางบนทะเล
อีกอย่างที่น่ากล่าวถึงคือ นอกจากช่องทางทางทะเลและทางบกแล้ว เมืองหนานหนิงยังมีแผนแสดงบทบาทในด้านอินเตอร์เน็ตเพื่อเชื่อมกับอาเซียนด้วย เพื่อทำให้ "ช่องทางหนานหนิง" มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โครงการ "ท่าเรือสารสนเทศ" ที่จีนกับอาเซียนร่วมกันสร้างบนพื้นฐานอินเตอร์เน็ตนั้น ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก
นายโจว หงโป กล่าวอีกว่า เมืองหนานหนิงจะถือการสร้างท่าเรือสารสนเทศเป็นพื้นฐาน สร้างศูนย์กลางสารสนเทศเพื่อให้บริการกับการสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ส่งเสริมให้ "ช่องทางหนานหนิง" ยกระดับขึ้นในทุกด้าน "ช่องทางหนานหนิง" กำลังกลายเป็น "ช่องทางแห่งความสุข" ที่จะนำมาซึ่งความผาสุกแก่ประชาชนเขตกว่างซี และประเทศอาเซียน
Yim/Ldan