ที่กรุงปักกิ่ง มีภัตตาคารที่เปิดมานานอยู่มากมาย บางแห่งเปิดมานานนับร้อยปี บางแห่งเปิดมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงเสียด้วยซ้ำ เช่น ภัตตาคารฉวนจู่เต๋อและภัตตาคารเผียนอี๋ฝ่าง ทั้งสองแห่งนี้เป็นภัตตาคารที่ขึ้นชื่อด้วยเป็ดย่างปักกิ่ง ภัตตาคารตงไหลสุ้น เป็นภัตตาคารของชาวมุสลิม เป็นร้านหม้อไฟ โดยวัสดุที่ใช้ในการทำหม้อไฟทำมาจากทองแดงแบบโบราณ ภัตตาคารเข่าโร่วจี้และภัตตาคารเข่าโร่วหว่าน เป็นร้านเนื้อย่างขึ้นชื่อและได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ภัตตาคารเฟิงเจ๋อหยวนและภัตตาคารตงซิงโหลว เป็นภัตตาคารอาหารปักกิ่ง ส่วนภัตตาคารฝ่างส้าน เป็นภัตตาคารอาหารตำรับชาววัง เป็นภัตตาคารของพระนางซูสีไทเฮาในสมัยราชวงศ์ชิง
สำหรับร้านขายยาโบราณในกรุงปักกิ่งก็มีทั้งถงเหรินถัง หนานชิ่งเหรินถัง ฉางชุนถัง หย่งเหรินถัง เชียนจือถัง วั่นฉวนถัง และเห้อเหนียนถัง คำว่า "ถัง" แปลว่า "ห้องโถง" หรือ "ห้องรับแขก" มักจะใช้ในการตั้งชื่อห้องรับรองของร้านชา ร้านยา หรือร้านภาพเขียน เป็นต้น
ส่วนสถานที่จำหน่ายเครื่องเขียนหรือภาพวาดจีนที่มีชื่อเสียงและอยู่คู่กรุงปักกิ่งมานานก็ได้แก่ อีเต๋อเก๋อ(จำหน่ายกระดาษวาดภาพและหมึก) เหวินเซิ่งจัย ตั้ยเย่ว์ซวน หรงเป่าจัย เฉิงเหวินโฮ่ว ชุ่ยเหวินเก๋อ ชิงมี่เก๋อ และซื่อเป่าถัง
หากอยากชิมชาที่อร่อยและมีคุณภาพดี ก็ต้องไปที่ร้านอู๋ยู่ว์ไท่ จางอีหยวน ชิ่งหลินชุน หยวนฉางโฮ่ว ร้านชาหย่งอาน และร้านชาเซินไท่
และของใช้ประจำวันที่ขาดไม่ได้อีกอย่างเลยก็คือเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณผู้อ่านจะได้สินค้าคุณภาพดีที่สุดก็ต้องไปร้านเหล่านี้ ได้แก่ ร้านรุ่ยฝูเสียง ร้านเน่ยเหลียนเซิง ร้านปู้หยิงจัย ร้านเซิ่งซีฝู และร้านหม่าจู้หยวน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายร้านดังในแขนงอาชีพต่างๆ เช่นร้านทำแวนตาต้าหมิง ร้านนาฬิกาเฮิงเต๋อลี่ ร้านถ่ายรูปจงกั๋ว ร้านซักผ้าผู่หลันเต๋อ เป็นต้น
Toon/Ping