สำนักข่าวซินหวารายงานว่า นับตั้งแต่ดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปีฉบับที่ 12 (ปี2011-2015)โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เป็นต้นมา ต่อสถานการณ์อันสลับซับซ้อนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รัฐบาลจีนได้ใช้การควบคุมมหภาคและมาตรการรับมือกับการท้าทายที่ถูกต้อง เร่งปรับโครงสร้างให้เร็วขึ้น พยายามปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ปูพื้นฐานที่มั่นคงต่อการพัฒนาสังคมพอกินพอใช้อย่างทั่วด้าน

ให้ประชาชนมีความอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งเป็นความปรารถนาพื้นๆของชาวบ้านทั่วไป ดังนั้น การใช้ความพยายามเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของงานพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีน

นับแต่ดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เป็นต้นมา จีนยืนหยัดให้การเติบโตของเศรษฐกิจอยู่บนพื้นฐานที่ประชาชนมีงานทำอย่างมั่นคงพร้อมกับมีรายได้เพิ่มขึ้น พยายามพัฒนาระบบการประกันชีวิตความเป็นอยู่เพื่อให้บริการสาธารณะเป็นที่สำคัญ เพิ่มการลงทุน เติมเต็มในส่งที่เคยขาดแคลน ให้ผลสำเร็จจากการพัฒนาสร้างความผาสุกแก่ประชาชนทั้งหมดอย่างเที่ยงธรรม

เพิ่มสัดส่วนการใช้จ่ายด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในงบประมาณเป็น 70% ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ด้านวัฒนธรรมของประชาชนให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้ประชาชนมีความสุขอย่างต่อเนื่อง

ดำเนินยุทธศาสตร์การมีงานทำเป็นสำคัญ ณ.สิ้นปี 2014 ยอดผู้มีงานทำทั่วประเทศ 770 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 2010 เพิ่มขึ้น 11.48 ล้านคน คุณภาพการมีงานทำดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงปี 2011-2014 จีนได้สร้างบ้านราคาถูก(สวัสดิการ) 32.30 ล้านชุด ถึงสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 39.70 ล้านชุด

4 ปีแรกของแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 รายได้ประชากรเพิ่มขึ้น 9.5% ซึ่งเติบโตเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของ GDP ช่องว่างระหว่างชาวเมืองกับชาวชนบทลดน้อยลง

ปลายปี 2014 จำนวนผู้ที่เข้าระบบประกันการรักษาพยาบาลพื้นฐานในเมืองต่างๆของจีนเพิ่มขึ้นกว่า 45.61 ล้านคนเมื่อเทียบกับปี 2010 จำนวนผู้ที่เข้าระบบการบริการทางแพทย์ในชนบทแบบใหม่เพิ่มเป็น 49.65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านคนเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2010 In/LJ