สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นที่กรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศสเมื่อค่ำวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 129 คน บาดเจ็บ 352 คน ประชาคมโลกประณามเรื่องนี้อย่างรุนแรง ไว้อาลัยกับผู้ประสบเคราะห์ร้าย และแสดงว่าจะกระชับความร่วมมือในการปราบปรามก่อการร้าย

ผู้นำของ 28 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและผู้นำของ 3 องค์กรใหญ่สหภาพยุโรปประกาศแถลงการณ์ร่วมว่า สหภาพยุโรปมีความสะเทือนใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งนี้ และไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิต กล่าวได้ว่า นี่เป็นการโจมตีสหภาพยุโรปของผู้ก่อการร้าย จึงจ้องปราบปรามการก่อการร้ายด้วยความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่และมาตรการจำเป็นทุกประการ

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการใช้กำลังรุนแรงต่อฝรั่งเศสที่ร้ายแรงที่สุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นการก่อการร้ายที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาของยุโรป ซึ่งอังกฤษ ฝรั่งเศสและประเทศพันธมิตรต่างๆ จะร่วมกันใช้ความพยายามมากกว่านี้เพื่อขจัดแนวคิดกลุ่มหัวรุนแรงที่เป็นพิษ

วันเดียวกัน นายคาเมรอนมีโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส สัญญาจะอำนวยความช่วยเหลือ ส่วนวันเดียวกัน สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่สองทรงมีพระราชสาส์นถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศส แสดงความสะเทือนใจและความเศร้าใจต่อการบาดเจ็บล้มตายอันหนักหนาสาหัสจากเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้

วันเดียวกัน นางซีโมเนตตา โซมมารูกา ประธานคณะกรรมการสหพันธ์สวิสเซอร์แลนด์ กล่าวคำปราศรัยที่สถานีวิทยุท้องถิ่นว่า การโจมตีทางก่อการร้ายเป็นภัยต่อค่านิยมพื้นฐานของมนุษย์ทั้งปวง ขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งกับผู้ประสบเคราะห์ร้ายและประธานาธิบดีฝรั่งเศส

Yim/Ping