นอกจากการเดินทางบนดินโดยรถยนต์และรถไฟฟ้าแล้ว ยังมียานพาหะอีกรูปแบบหนึ่งที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว และสนุก นั่นก็คือการนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำแยงซี นับเป็นกระเช้าข้ามแม่น้ำแยงซีสายที่ 2 ของจีน ออกแบบและผลิตด้วยจีนเอง สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1987 ยาว 1,166 เมตร ความเร็ว 6 เมตรต่อวินาที ใช้เวลาข้ามแม่น้ำเพียง 4 นาที แต่ละวันสามารถขนส่งผู้โดยสารจำนวน 10,500 คน ให้บริการตั้งแต่ 06.30 น.จนถึง 21.45 น. ได้ชื่อว่า "ระเบียงกลางอากาศสายแรกของจีน" และ "รถประจำทางกลางอากาศของเมืองภูเขา" เป็นเส้นทางขนส่งมวลชนสายสำคัญสำหรับคนท้องถิ่น และเป็นรายการท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ค่าตั๋วครั้งละ 10 หยวนต่อคน ถ้ามีบัตรไอซีการ์ดหรือบัตรขนส่งมวลชนของนครฉงชิ่ง เสียค่าใช้จ่ายเพียงครั้งละ 1.8 หยวนต่อคนเท่านั้น ลักษณะกระเช้าเหมือนตู้รถไฟ แต่มีที่นั่งเพียง 2 ที่ สามารถจุคนได้คราวละ 60 คน ระหว่าง 4 นาทีที่กระเช้าข้ามแม่น้ำ ผู้โดยสารสามารถชมวิวเมืองและแม่น้ำที่สวยงาม โดยเฉพาะตอนเย็น หลังเปิดไฟถนนแล้ว จะได้เห็นสะพานที่ตกแต่งด้วยแสงไฟ ชวนให้รู้สึกว่า นครฉงชิ่งเหมือนสาวงาม ที่มีทั้งความสวย ยังอ่อนหวานนุ่มนวล และมีชีวิตชีวา

ฉงชิ่งมีแม่น้ำสายใหญ่ๆ จะขาดเรือได้อย่างไร ดังนั้น เมื่อยืนริมแม่น้ำ จะมองเห็นเรือขนส่งลำใหญ่ลำเล็กแล่นไปมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในยามกลางคืน จะมีเรือสำราญลำใหญ่ที่ตกแต่งโดยไฟหลากสี 3-4 ลำ เปิดเพลงไพเราะขับกล่อม นำนักท่องเที่ยวชมวิวกลางคืนของนครฉงชิ่งตามแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำเจียหลิง และชมสะพานที่มีรูปร่างพิเศษแตกต่างไป ล่องเรือชมแม่น้ำครั้งละประมาณ 1 -1.5 ชั่วโมง สัมผัสบรรยากาศที่โรแมนติกและทำให้การมาเที่ยวนครฉงชิ่งมีสีสันหลากหลายยิ่งขึ้น

นครฉงชิ่งยังมีอีกชื่อเรียกว่า "เมืองแห่งสะพาน" หรือพิพิธภัณฑ์สะพานของโลก เพราะเป็นเมืองที่มีสะพานจำนวนมากที่สุดในจีน ข้อมูลสถิติจากสมาคมสะพานของนครฉงชิ่งแสดงว่า จนถึงสิ้นปี 2014 นครฉงชิ่งมีสะพานขนาดใหญ่เล็กรวมกว่า 13,000 แห่ง ในจำนวนนี้ เพียงสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำเจียหลิง ก็มีมากถึง 41 แห่ง สะพานขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่า 800 เมตรมี 36 แห่ง และมีแผนจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำประเภทต่างๆ อีกประมาณ 30 แห่ง สะพานแต่ละแห่งมีลักษณะแตกต่างกันไป ไม่มีแห่งใดรูปร่างหน้าตาเหมือนกันเลย ถือเป็นลักษณะเด่นที่สุดของฉงชิ่ง ปัจจุบัน ทั่วประเทศจีน มีสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีทั้งหมดกว่า 100 แห่ง อยู่ในฉงชิ่งมากถึง 24 แห่ง

เนื่องจากนครฉงชิ่งสร้างอยู่บนภูเขา อุโมงค์ค์จึงเป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทางหลวง การสร้างทางด่วน อุโมงค์ค์และรถไฟใต้ดินในฉงชิ่ง มีความยากลำบากกว่าในเขตที่ราบหลายเท่า โดยปกติ แรงคนและเงินทุนที่ใช้ในการสร้างทางรถไฟใต้ดินระยทาง 1 กิโลเมตรในฉงชิ่ง สามารถสร้างได้ยาว 7 กิโลเมตรในเขตที่ราบ และต้องใช้กำลังในการตรวจวัดมากกว่าด้วย แต่เพราะอุโมงค์ค์และทางรถไฟใต้ดินทำให้การเดินทางเร็วและสะดวกขึ้นเป็นหลายเท่า เช่น จากตัวเมืองฉงชิ่งถึงอำเภออู่หลง สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร เมื่อก่อนไม่มีทางด่วนและไม่มีอุโมงค์ ต้องนั่งรถประมาณ 10 ชั่วโมงหรือนานกว่า แต่ขณะนี้มีทางด่วนและอุโมงค์แล้วหลายแห่ง ทำให้ประหยัดเวลาได้มาก ถ้ารถไม่ติด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว สำหรับทางด่วนระหว่างตัวเมืองถึงเขตท่องเที่ยวทางธรรมชาติอู่หลง มีอุโมงค์ 16 แห่ง ซึ่งอุโมงค์ไป๋หยุนยาวที่สุดเป็นระยะทางกว่า 7 ,000 เมตร อนาคตเมืองฉงชิ่งยังมีแผนจะสร้างอุโมงค์ใต้แม่น้ำอีก 5-6 แห่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

นครฉงชิ่งมีประชากรเกือบ 30 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีประชากรชนชาติส่วนน้อยจำนวนกว่า 1,930,000 คน คิดเป็นประมาณ 5.8% ของประชากรทั้งหมด มีชนชาติส่วนน้อยจำนวนมากที่สุดในจีน โดยจีนมีชนชาติส่วนน้อยทั้งสิ้น 56 ชนชาติ ในฉงชิ่งมีถึง 55 ชนชาติด้วยกัน เช่น ชนชาติถู่เจีย แม้ว หุย แมนจู อี๋ จ้วง มองโกเลีย ทิเบต ไป๋ อุยกูร์ เกาหลี ไต เป็นต้น ดังนั้น จึงมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย