เช้าวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมานี้ กลางกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซียเกิดเหตุระเบิดหลายครั้ง ส่งผลให้มีบาดเจ็บ 17 คน ผู้เสียชีวิต 7 คน จำนวนนี้ เป็นคนร้าย 5 คน โดย 2 คนเป็นมือระเบิดพลีชีพ คนร้ายอีก 3 คนถูกตำรวจวิสัญญี นอกจากนั้น ยังมีชาวบ้านเสียชีวิตอีก 2 คน เป็นชาวอินโดนีเซียหนึ่งคนและชาวต่างชาติอีกหนึ่งคน ตำรวจอินโดนีเซียกล่าวว่า องค์การหัวรุนแรงไอเอสวางแผนก่อเหตุระเบิดโจมตีครั้งนี้
เหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นที่หน้าห้างสรรพสินค้า ซารินาห์ ที่ถนน เอ็มเอช ทามรินในกรุงจาการ์ตาเมื่อเวลาประมาณ 10.40 น ต่อมาไม่นานเกิดระเบิดที่ป้อมยามที่อยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า และจุดอื่นๆในจาการ์ตาก็เกิดเหตุระเบิดต่อเนื่องกันหลายครั้ง ตำรวจอินโดนีเซียยังปะทะกับกลุ่มติดอาวุธที่ห้างสรรพสินค้าด้วย
นายสวู่ ลี่ผิงผู้เชี่ยวชาญปัญหาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักวิจัยสภาวิทยาศาสตร์และสังคมแห่งชาติจีนเห็นว่า สาเหตุสำคัญของเหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะมีสองประการ ประการแรก อาจเป็นเสียงสนับสนุนไอเอสที่ตะวันออกกลาง เพื่อประกาศศักดาแสดงกำลังของพวกเขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีประชากรเป็นชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ประการที่สอง เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียได้เพิ่มกำลังในการปราบปรามไอเอส อินโดนีเซียยังยื่นฟ้องนายอะบู บาคาร์ บาเซียร์ ผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มไอเอสที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โทษฐานยั่วยุปลุกปั่นให้มีการก่อการร้าย เหตุระเบิดครั้งนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องครั้งนี้
นายสวู่ ลี่ผิงระบุว่า ปีหลังๆนี้ ตำรวจอินโดนีเซียเพิ่มกำลังดูแลมัสยิดต่างๆ และใช้มาตราการเข้มกับองค์การหัวรุนแรง แม้เหตุระเบิดครั้งนี้ ไม่ได้ก่อความสูญเสียที่ร้ายแรง เพื่อหลีเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุก่อการร้ายที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งอินโดนีเซียจำเป็นต้องกระชับความร่วมมือและปราบปรามการก่อการร้ายให้ถึงที่สุด
In/LJ