สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า วันที่ 27 มกราคมนี้ นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเดินทางมาเยือนปักกิ่ง เพื่อหารือกับผู้นำจีนในประเด็นปัญหานิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี ปัญหาทะเลจีนใต้และปัญหาไต้หวัน โดยนายจอห์น แคร์รีย้ำว่า สหรัฐฯยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว ไม่สนับสนุน "ไต้หวันเป็นเอกราช" แต่สนับสนุนสองฝั่งช่องแคบไต้หวันพูดคุยเจรจากัน

หลังย่างเข้าปี 2016 เกิดหลายเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของหลายภูมิภาค เช่น กรณีซาอุดิอาระเบียขัดแย้งกับอิหร่านอย่างรุนแรง และกรณีเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 4 ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การที่จีนและสหรัฐฯจะสามารถร่วมกันรับมือกับการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น กลายเป็นประเด็นที่สื่อมวลชนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเดินทางมาเยือนปักกิ่ง โดยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวขณะพบปะกับนายจอห์น แคร์รีว่า กล่าวโดยรวมแล้ว หากจีนและสหรัฐฯร่วมกันใช้ความพยายาม จะสามารถทำสิ่งดีๆ สิ่งที่ได้ชัยชนะร่วมกัน และสิ่งที่ส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรื่องของโลกได้ จีนยินดีร่วมกันใช้ความพยายามกับสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโอบามาต่อไป เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯที่ไม่ขัดแย้งกัน เคารพซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันและได้ชัยชนะร่วมกัน

วันเดียวกัน นายหวาง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนพบปะเจรจากับ นายจอห์น แคร์รี หลังเสร็จสิ้นการพบปะเจรจา นายหวาง อี้ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า การพบปะเจรจาระหว่างเขากับนายจอห์น แคร์รีใช้เวลาค่อนข้างมาก เพราะต้องพูดคุยในหลายประเด็นทีเดียว ทั้งสองฝ่ายล้วนต้องการมีความเห็นตรงกันในประเด็นปัญหาต่างๆ มากขึ้น การพบปะเจรจาครั้งนี้ดำเนินอย่างตรงไปตรงมา และมีลักษณะสร้างสรรค์

เกี่ยวกับปัญหาไต้หวัน นายหวาง อี้ ระบุว่า ปัญหาไตต้หวันเป็นประเด็นสำคัญที่สุดที่จะสงผลกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ไม่ว่าสถานการณ์เกาะไต้หวันเปลี่ยนแปลงอย่างไร แผ่นดินใหญ่ และไต้หวันล้วนเป็นของจีนนั้นเป็นข้อเท็จจริงถาวรที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ สหรัฐฯต้องยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว ปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีน-สหรัฐฯ 3 ฉบับ และคัดค้าน "ไต้หวันเป็นเอกราช" ทั้งยังต้องใช้ปฏิบัติการที่แท้จริงเพื่อสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างสันติ

ด้านนายจอห์น แคร์รี กล่าวว่า สหรัฐฯยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว ไม่สนับสนุน "ไต้หวันเป็นเอกราช " แต่สนับสนุนให้สองฝั่งช่องแคบไต้หวันพัฒนาความสัมพันธ์อย่างสันติ

เกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี นายหวาง อี้ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือนั้น ต้องยึดมั่นในนโยบายปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี พิทักษ์สันติภาพ เสถียรภาพของคาบสมุทรเกาหลี และแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา 3 นโยบายนี้ต้องมาพร้อมกัน ขาดหนึ่งไม่ได้

เกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้ นายหวาง อี้ กล่าวว่า หมู่เกาะทะเลจีนใต้เป็นดินแดนของจีนมาตั้งแต่โบราณกาล จีนสร้างสิ่งปลูกสร้าง และอุปกรณ์บางอย่างบนเกาะเพื่อป้องกันตนเอง ประเทศที่มีอธิปไตยมีสิทธิ์ทำได้ ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสิ่งที่เรียกว่า "พัฒนาพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ทางการทหาร" สหรัฐฯต้องพิจารณาปัญหานี้ตามสภาพความเป็นจริง ด้วยสติสัมปชัญญะและความเที่ยงธรรม ทั้งสองฝ่ายต้องจัดการกับปัญหาที่ละเอียดอ่อนด้วยวิธีการสร้างสรรค์ เพื่อไม่ให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศถูกรบกวน

ด้านนายจอห์น แคร์รี กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีความสำคัญยิ่ง ทั้งสองฝ่ายมีประโยชน์ร่วมกันมากในกิจการระหว่างประเทศ สหรัฐฯเห็นตรงกับจีนว่า หากสหรัฐฯและจีนร่วมมือกัน ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาระดับโลกหลายๆ ปัญหาทีเดียว

(YIM/cai)